ภายหลังถูกสอบปากคำ นายบาดินยังคงยืนยันหนักแน่นว่าต้นเหตุของคดีสยองเมืองสองแควครั้งนี้มาจากผู้ตายทั้งคู่ลักลอบเป็นชู้กับเมียตน ไม่มีเรื่องขัดแย้งอย่างอื่นแต่อย่างใด
กลางดึกของคืนวันที่ 7 ต่อวันที่ 8 มิ.ย. ตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ นำโดย พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ พ.ต.ท.อำนาจ เมฆสิน รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.โกศล สวัสดิเทพ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.นฤนาจ บุญจวง รอง ผกก.สอบสวน ร.ต.อ.พีรพันธ์ กันหมุด พนักงานสอบสวนเวร พร้อมสายตรวจและชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันตาย 2 ศพภายในหมู่บ้านหนองกระบาก ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
ในบ้านที่เกิดเหตุพบศพนายแวง จันทะคุณ อายุ 42 ปี และนายมนู จันทะคุณ อายุ 37 ปี 2 พี่น้อง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม กระสุนขนาด 5.56 ม.ม. โดยนายแวงถูกยิงที่บริเวณหน้าอกทะลุหลังจำนวน 1 นัด ส่วนนายมนูโดนเข้าที่บริเวณริมฝีปากข้างซ้ายจำนวน 1 นัด ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนขนาด 5.56 ม.ม. จำนวน 3 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 1 นัดตกอยู่
สอบสวน นางสายทิพย์ ชูพงษ์ ภรรยาของนายแวงให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายบาดิน พาพิมพ์ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับ ผู้ตายทั้งสองคน ก่อนเกิดเหตุ นายบาดิน ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อม นายมนู หลังจากมาถึงบ้าน นายบาดินใช้ปืนข่มขู่สั่งนายแวง สามีตนกับนายมนู ไปนั่งลงกับพื้นภายในบ้านตรงจุดที่เกิดเหตุ ก่อนจะพูดคุยและมีการโต้เถียงกัน
นายบาดินกล่าวหาว่านายแวง สามีตน มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับภรรยาของนายบาดิน หลังมีการโต้เถียงกันอยู่ไม่นาน นายบาดินได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายทั้งสองคน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ภรรยาของนายแวงให้การอีกว่า ก่อนเกิดเหตุสามีตนกินข้าวเสร็จอยู่นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ส่วนตนอยู่ในห้องโถง มองเห็น นายบาดินขี่รถมอเตอร์ไซค์มาที่บ้าน ตนรู้สึกไม่ดี เพราะเคยมีเรื่องกับสามีกันมาก่อน เมื่อนายบาดินมาถึง สามีได้บอกว่าใจเย็นๆ นายบาดินพูดว่า “กูจะกระทืบมึง ไปยิงปืนใส่บ้านกูทำไม”
นายแวงพยายามอธิบายว่าไม่มีปืนจะไปยิงใส่บ้านได้ยังไง ตนจึงบอกย้ำว่าสามีไม่มีปืนจริงๆ แต่นายบาดินบอกให้ตนหลบไป ไม่อย่างนั้นจะยิงตน จากนั้นได้หันปืนไปหาทั้งสองคน บอกให้นั่งกับพื้นตรงกำแพง ตนพูดตลอดว่ามีอะไรค่อยๆ คุยกัน พร้อมยืนยันว่าเรื่องนายแวงไปมีอะไรกับเมียนายบาดินไม่เป็นความจริงไม่มีมูลเลย ทางนายแวงได้บอกตนให้ถอยไป ถึงยังไงก็เป็นเพื่อนกันคงพูดกันรู้เรื่อง พอพูดจบนายบาดินก็ยิงนายแวงและนายมนูอีกคน ตนได้วิ่งไปกอดสามีเอาไว้ นายบาดินจ่ออีก 4 นัด แต่กระสุนนัดที่ 3 ด้าน ส่วนนัดที่ 4 ลูกของตนอยู่ในบ้านเห็นจะยิงตน แต่กระสุนไม่โดน นายบาดินเลยขี่รถหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลวัดโบสถ์ ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด และได้ส่งศพผู้ตายทั้งสองคนไปให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราชผ่าพิสูจน์เพื่อประกอบสำนวน ส่วน ผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบว่าเคยติดคุกคดีฆ่าผู้อื่นมาแล้วครั้งหนึ่ง แถมยังเป็นขาใหญ่ในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์
ต่อมาวันที่ 9 มิถุนายน ที่ สภ.วัดโบสถ์ พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิสุทธิ์ คล้ายแสง ผกก.สภ.วัดโบสถ์ ร่วมกันสอบปากคำนายบาดิน หลังเจ้าตัวติดต่อเข้ามอบตัว ผ่านนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งที่ อบต.หินลาด อำเภอวัดโบสถ์ พร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุ
นายบาดินให้การว่า เหตุที่ลงมือยิงนายแวงและนายมนูสองพี่น้อง เนื่องจากแค้นที่นายแวงแอบมาตีท้ายครัว มีอะไรกับเมียตัวเองทั้งสองคน สาเหตุที่ตนรู้เรื่องดังกล่าว เพราะเห็นผู้ตายทั้งเข้าออกบ้านตน จึงได้เค้นสอบถามเมียสารภาพว่ามีอะไรกับทั้งสองดังกล่าว นอกจากนั้นนายแวงได้ยิงปืนใส่บ้านตนเอง ตนเห็นหัวกระสุนปืนเป็นของนายแวง
คืนเกิดเหตุจึงบังคับนายมนู เพื่อพาไปพูดกันที่บ้านของนายแวง แต่กลับไม่เป็นผล ทำให้บันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนที่พกมายิงทั้งสองคนจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หนีไปหลบซ่อนอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้าน แต่ทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว และไม่สามารถออกจากป่าไปไหนได้ จึงมาต่อติดกับบุคคลที่ตนไว้ใจ และขอมอบตัวที่ อบต.บ้านหินลาด อ.วัดโบสถ์ ตอนก่อเหตุไม่คิดจะยิงภรรยานายแวงแต่อย่างใด ทั้งที่ยังมีกระสุนอีกจำนวนหลายนัด
เบื้องต้นได้ดำเนินคดีนายบาดินในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาพกอาวุธปืนที่ไม่ได้อนุญาต และไม่มีทะเบียน ซึ่งอาวุธปืนสงครามนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลว่านายบาดินซื้อจากที่ไหนอีกครั้ง
สาเหตุจะมาจากอะไรก็ย่อมไม่ใช่ใบอนุญาตให้ฆ่าใครได้
อนุชา แก้วคำมา
เรื่อง/ภาพ