นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของโลกเติบโตต่อเนื่อง เพราะประเทศต่างๆ หันมา สนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า สอดคล้องกับความตกลงปารีสที่ตั้งเป้าหมายลดโลกร้อน ปัจจุบันมีแผนการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้นโยบาย “30@30” คือการตั้งเป้าหมายให้ไทยผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 30% ภายในปี 2573 โดยรัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนทั้งการสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิตจาก 8% ลดเหลือ 1%

และการอุดหนุนการซื้อยานยนต์ไฟฟ้าไม่เกินคันละ 150,000 บาท โดยผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นบุคคลตามประกาศกรมสรรพสามิตกำหนด ส่วนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของไทยปี 2565 มีจำนวน 92,746 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 34.93% ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ปี 2565 จำนวน 72,158 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 86.58% และการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ช่วงปี 2560-2565 เติบโตเฉลี่ย 6.33% ต่อปี ปี 2565 ไทยส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับที่ 24 ของโลก และเป็นอันดับที่ 4 ของเอเชีย รองจากญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 497.50 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยไทยส่งออกมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สัดส่วน 51.05% เวียดนาม สัดส่วน 14.54% ฟิลิปปินส์ สัดส่วน 9.17% เม็กซิโก สัดส่วน 9.03% และอินโดนีเซีย สัดส่วน 6.63% ดังนั้น ไทยควรเร่งส่งเสริมตลาดภายในประเทศ กระตุ้นการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน โดยผู้ผลิตต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบ ของผู้นำเข้า

นอกจากนี้ ต้องเร่งส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน ส่งเสริม การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งต้องพัฒนาด้านแรงงาน และบุคลากรที่จำเป็นโดยสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อเข้าไปส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น รวมไปถึงอาจใช้ต้นแบบจากประเทศที่มีวิธีการปฏิบัติที่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน