นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 39,194 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 37,143 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อน สิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,810 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างรวมกัน สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 14,061 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ เพื่อให้การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงได้กำชับให้โครงการชลประทานปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนด พร้อมติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และตรงเป้า สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการเก็บกัก เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วง และให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน