กทม. – นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานโครงการบ้านอิ่มใจ ว่า กรุงเทพมหานคร มีแผนใช้บริเวณสะพานเฉลิมวันชาติ เขตพระนคร และขอจัดสรร งบประมาณ ประจำปี 2567 เป็นค่าปรับปรุงอาคารและอุปกรณ์ จำนวน 2,028,100 บาท โดยปรับปรุงบริเวณที่ทำการฝ่ายบริหารเอกสาร สำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์ประสานและ ช่วยเหลือคนเร่ร่อนไร้ที่พึ่ง พื้นที่สวัสดิการ เช่น จุด ดร็อปอิน ตรวจสุขภาพส่งเสริมอาชีพ ฯลฯ รองรับคนเร่ร่อนไร้ที่พึ่ง พักค้าง 100 คน แบ่งเป็นชาย 50 คน หญิง 50 คน รวมถึงบริเวณแม้นศรี พื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ อาคาร 6 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 8,281 ตารางเมตร รองรับคนเร่ร่อนไร้ที่พึ่งได้ 200 คน แบ่งเป็นชาย 100 คน หญิง 100 คน ค่าเช่าที่ดินจำนวน 13,000,000 บาทต่อปี
นอกจากนี้ ด้านการเตรียมพร้อมบุคลากร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชได้พัฒนาหลักสูตรการอบรมผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาล (Care Giver) ระยะเวลาหลักสูตร 420 ชั่วโมงเสร็จสิ้นแล้ว และได้เปิด อบรมไปแล้ว 1 หลักสูตร โดยให้สำนักการศึกษาหารือร่วมกับสำนักพัฒนาสังคม พิจารณาเพิ่มหลักสูตรผู้ดูแลเพื่อช่วยเหลืองานพยาบาลในวิชาชีพเลือกเสรีสำหรับนักเรียน และประสานความร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพต่างๆ รวมถึงพิจารณาความเหมาะสมเพิ่มเติมในการใช้อาคารบริเวณแม้นศรีรองรับคนเร่ร่อนไร้ที่พึ่ง
สำหรับการช่วยเหลือคนเร่ร่อนไร้ที่พึ่งนอกจุดดร็อปอิน ที่ผ่านมา กทม.ดำเนินการไปแล้ว 287 คน แบ่งเป็นชาย 216 คน หญิง 71 คน ส่วนการบริการสวัสดิการสังคมและบริการแจกอาหารในจุดดร็อปอิน มีผู้ลงทะเบียน 363 คน แบ่งเป็นชาย 292 คน หญิง 71 คน มีผู้ใช้บริการหมุนเวียน 150-200 คนต่อวัน ซึ่ง กทม.กำลังเร่งขยายการ ช่วยเหลือเพิ่มเติมผ่านโครงการบ้านอิ่มใจต่อไป
รายงานข่าวจากกรุงเทพมหานครแจ้งว่า เมื่อเดือนก.ย.2562 กทม. ได้ยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบริเวณสำนักการประปา สาขาแม้นศรีเดิม ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพราะกทม.เช่าพื้นที่ดังกล่าวในอัตราปีละ 28 ล้านบาท แต่กลับใช้พื้นที่ไม่คุ้มค่า ประกอบกับคนไร้ที่พึ่งเข้าพักอาศัยอยู่ไม่มาก และทำการ ย้ายศูนย์คัดกรองและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสไปที่อาคาร 4 ชั้น บริเวณศูนย์ฝึกอาชีพบางพลัด เขตบางพลัด กทม. ของสำนักพัฒนาสังคม (สพส.)
ซึ่ง กทม.ได้เช่าพื้นที่วัดบางพลัด เพื่อใช้ประโยชน์เป็นศูนย์พัฒนาธุรกิจ ตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในอัตราค่าเช่าปีละ 100,000 บาท และสิ้นสุดสัญญาเช่าไปแล้วเมื่อปี 2565 ทำให้กทม.ต้องกลับมาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบริเวณสำนักการประปา สาขาแม้นศรีเดิม ซึ่งเป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์อีกครั้ง ในอัตรา 13 ล้านบาทต่อปี
