สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ได้สั่งการให้บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ต้องส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (extended-scope special audit) ภายในวันที่ 17 ก.ค. 2566 ตามที่ได้ ขอขยายระยะเวลาเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ด้วย
ทั้งนี้ ตามที่ ก.ล.ต. สั่งการให้ STARK ขยายขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษในประเด็นที่ผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับธุรกรรมที่มีความผิดปกติ โดยให้นำส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 16 มิ.ย. 2566 ต่อมา STARK มีหนังสือขอขยายระยะเวลาในการนำส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติมอีก 30 วัน เป็นภายในวันที่ 17 ก.ค. เนื่องจากปริมาณข้อมูลในขอบเขตที่ต้องตรวจสอบ มีจำนวนมากนั้น
ก.ล.ต. พบว่า การดำเนินการตรวจสอบ special audit ของ STARK มีความคืบหน้าไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่มีประเด็นที่ต้องใช้เวลาในการขอเอกสาร bank statement จากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก และผู้สอบบัญชีมีเหตุที่จะต้องขยายขอบเขตการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผลจากประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีและผลการตรวจสอบ special audit ระยะแรกแล้ว พร้อมทั้งได้มีการกล่าวโทษ STARK กรรมการ อดีตกรรมการและอดีตผู้บริหารของ STARK รวม 10 ราย และมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดและห้ามมิให้ออกนอกราชอาณาจักรไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวไป เมื่อวันที่ 6 ก.ค.
ก.ล.ต. จึงขยายระยะเวลานำส่งรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าว เป็นภายในวันที่ 17 ก.ค. ตามที่ STARK ได้ขอขยายระยะเวลาเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้เปิดเผยผล special audit ผ่านระบบสารสนเทศของตลท. พร้อมกันด้วย
ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลท. กล่าวว่า ในกรณีที่มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดที่ถูกกล่าวโทษ STARK รวม 10 ราย นั้น การที่สามารถทำเรื่องฟ้องร้องได้ในเวลาที่รวดเร็วเช่นนี้ ถือว่าเป็นจุดที่ดีและจะทำให้ในอนาคตจะสามารถสร้างมาตรฐาน (Benchmark) ที่ดีขึ้นในอนาคตได้
