นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะเอลนีโญอ่อนๆ กรมชลฯจึงเตรียมรับมือภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น โดยปรับประมาณการน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ หลังน้ำไหลลงเขื่อนน้อย หรือปรับเข้าสู่สถานการณ์ที่แย่สุด เพื่อการบริหารจัดการอย่างรอบคอบให้มีน้ำใช้ ไปจนถึงฤดูฝนหน้าปี 2567 โดยคาดการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 35 แห่ง ณ 1 พ.ย. มีน้ำในเขื่อนปริมาณ 44,166 ล้านลบ.ม. น้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น 15,238 ล้านลบ.ม. มีน้ำใช้การได้ 20,624 ล้านลบ.ม. น้อยกว่าปีก่อน 18,238 ล้านลบ.

เมื่อรู้คาดการณ์ฝนและปริมาณน้ำที่มีจำกัดแล้ว จากนี้ต่อไปต้องเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด กระทรวงมหาดไทยต้องประสาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อบต. เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนให้เตรียมน้ำกิน น้ำใช้ สำรองไว้ใช้ในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. 2567 เพราะช่วงส.ค.-ก.ย. 2566 จะมีฝนตกชุกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากไม่สำรองน้ำอาจไม่เพียงพอสำหรับอุปโภค บริโภค

“ภาครัฐต้องร่วมกับประชาชนให้ความรู้ ลงพื้นที่เตือนภัยในระดับครัวเรือนหากทำได้ตอนนี้ต้องเร่งล้างโอ่ง ล้างแท็งก์น้ำ เตรียมเก็บน้ำไว้ใช้ หรือ อบต. ต้องให้ความรู้ว่ากว่าฝนใหม่ปี 2567 จะมา แต่ละครัวเรือนต้องช่วยเหลือตัวเอง สำรองน้ำไว้กิน ไว้ใช้ โดย 1 ครัวเรือนใช้น้ำประมาณ 150 ลิตร/วัน หากต้องสำรองไว้ใช้ 3 เดือน ต้องใช้วงบ่อซีเมนต์จำนวน 6 ท่อต่อกันเป็นแท็งก์น้ำ ประมาณ 4 แท็งก์ ครัวเรือนที่มีสมาชิก 3-4 คน จะมีน้ำเพียงพอกินใช้ตลอดแล้ง ปี 2567”

สำหรับน้ำในเขื่อนทั่วประเทศจำนวน 1,530 แห่ง ณ วันที่ 16 ก.ค. 2566 มีปริมาณน้ำเก็บกัก 38,422 ล้านลบ.ม. หรือ 50% ของความจุอ่าง น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 3,128 ล้านลบ.ม. ที่มีปริมาณน้ำ 41,550 ล้านลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 14,438 ล้านลบ.ม. หรือ 27% ของความจุอ่าง น้อยกว่าปีก่อน 3,176 ล้านลบ.ม. ที่มีปริมาณน้ำ 17,614 ล้านลบ.ม. หากรวมปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่กับขนาดกลางทั่วประเทศทุกภาคของประเทศมีปริมาณน้อยกว่าปีก่อน ยกเว้นภาคเหนือที่มีปริมาณน้ำมากกว่าปีก่อนปริมาณ 272 ล้านลบ.ม.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน