ถึงอย่างไรก็ต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะนัดประชุม ในวันที่ 3 สิงหาคม ว่าจะพิจารณาคำร้อง กรณีรัฐสภา มีมติห้ามเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ เป็นครั้งที่สอง ถือว่าเป็นมติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไปจนถึงต้องชะลอการโหวตนายกฯ คนใหม่หรือไม่

ต้องรอฟังมติศาลรัฐธรรมนูญในวันดังกล่าว ถ้าหากศาลมีมติไม่รับคำร้องนี้ ก็เป็นอันจบ

ที่ประธานสภาวันนอร์ นัดประชุม 2 สภา ในวันที่ 4 สิงหาคม ก็จะพิจารณาวาระโหวตแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้ทันที!

ดังนั้นมีโอกาสลุ้นว่า 4 สิงหาคมนี้ จะได้พิจารณา แต่งตั้งนายกฯ คนใหม่เสียที

โดยเป็นคิวของพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้รับมอบสิทธิ์ ต่อจากพรรคก้าวไกล

จะได้ลุ้นกันว่านายเศรษฐา ทวีสิน จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่!?!

3 สิงหาคม จึงเป็นวันที่ทั่วทั้งสังคมจะต้องเฝ้ารอฟังมติของศาลรัฐธรรมนูญ

ซึ่งจะมีผลว่า วันที่ 4 สิงหาคม สามารถพิจารณาวาระตั้งนายกฯ ได้หรือไม่

ถ้าได้พิจารณา ก็จะต้องเฝ้ารอดูว่า ชื่อเศรษฐาจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ มีเสียงเห็นชอบถึง 375 หรือเปล่า

ความจริงก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน น่าเชื่อว่าถ้ามีนัดหมาย โหวตกันแล้วเช่นนี้

การพูดคุยเจรจาขอเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย น่าจะทำได้เรียบร้อย ปิดดีลแล้ว!

ประเด็นสำคัญคือ เดิมทีการเสนอชื่อนายพิธา เสียงไปไม่ถึง กึ่งหนึ่งของรัฐสภา

เพื่อไทยที่ได้สิทธิ์ต่อ จะต้องหาเสียงสว.มาเพิ่ม หาเสียงสส.จากพรรคการเมืองนอกขั้ว 8 พรรคมาเติมให้ได้

ตอนที่เพื่อไทย เชิญ 5 พรรคขั้วรัฐบาลประยุทธ์ มาพูดคุย เจรจา โดนประชาชนรุมถล่มจนหูอื้อ

ถ้าเป็นเช่นนี้ พรรคเพื่อไทย ไม่น่าจะรับหมดทั้ง 5 พรรคดังกล่าวมาร่วมสนับสนุน!!

อาจจะดึงเพียงไม่กี่พรรค เอาที่ไม่มีเสียงต่อต้านจากประชาชน

ขณะเดียวกัน ที่ชาวบ้านวิจารณ์เพื่อไทยอย่างร้อนแรงนั้น เพราะมีท่าทีผลักไสพรรคก้าวไกล ทั้งที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนเป็นอันดับ 1

ดังนั้นสูตรรัฐบาลใหม่ที่เพื่อไทยเป็นแกนนำ จะต้องจัดความสัมพันธ์กับก้าวไกลอย่างเหมาะสมที่สุด ให้เกียรติที่สุด

พรรคก้าวไกลจะอยู่ต่อหรือไม่ไปต่อ ก็ต้องเป็นการตกลงร่วมกันอย่างเป็นมิตรอย่างมากๆ

ดูแล้วเมื่อมั่นใจนัดหมายวันที่ 4 สิงหา ก็คงเชื่อว่า เสียงสนับสนุนแน่นหนาแล้วแน่ๆ

แต่สำคัญว่า เมื่อเศรษฐาได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 จะต้องเป็นสูตรรัฐบาลที่ชาวบ้านยอมรับได้มากที่สุด ด้วยเช่นกัน!

วงค์ ตาวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน