ใครที่เคยขับรถ ที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังแล้ว จะรู้ว่าเสน่ห์คือ ความกระชับของช่วงล่าง ไม่ว่าจะบนย่านความเร็วสูง เร่งแซงเปลี่ยนเลน รวมถึงการเข้าโค้ง

และจะยิ่งสนุกแค่ไหน เมื่อมาอยู่บนรถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีวี) ที่มีความแรงแบบชนิดไม่ต้องรอรอบ ซึ่งนั่นมัดรวมกันอยู่กับรถอีวีคันเท่ เอ็มจี 4 ยนตรกรรมจากแดนมังกร ที่มีสายเลือดผู้ดี ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

ติดต่อเข้าไปยังประชาสัมพันธ์หนุ่มมาดโอปป้า ‘สุภกิจ วิเศษไพฑูรย์’ แห่งเอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย เพื่อขอยืมมาทดสอบ ได้รับคำตอบ ให้เข้าไปรับรถได้ในบัดดล กับเจ้าเอ็มจี 4 รุ่น X ซึ่งเป็นตัวท็อป ที่สำนักงานใหญ่ ย่านสีลม

รับรถเรียบร้อย แบตเตอรี่มีอยู่ 93% วิ่งได้ระยะทาง 337 ก.ม. เดี๋ยวมาดูกันว่าใช้งานในเมือง รวมถึงขับทางไกล ใกล้ๆ กรุงเทพฯ จะได้ระยะจริงสักเท่าไหร่

แม้จะเป็นช่วงสายวันธรรมดา แต่ก็ยังคราคร่ำ ไปด้วยรถน้อยใหญ่ อาศัยความแรง และ รูปร่างกะทัดรัด หลบหลีกได้อย่างสบายมือ แถมไม่เครียด กับความเงียบสนิท อันเป็นบุคลิกรถอีวี

แต่มีบางจังหวะที่เมื่อเปลี่ยนเลนแบบไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว เสียงเตือนดังขึ้น พร้อมกับพวงมาลัยถูกหน่วง ให้กลับอยู่ในเลนแบบสุดๆ

เป็นหนึ่งในฟังก์ชันระบบความปลอดภัยที่มีมาให้เต็มคัน ทำเอาตกใจอยู่ไม่น้อย มองว่าดีก็ดีหากอยู่ในอาการเหม่อลอย หรือหลับใน

แต่ถ้าตั้งใจที่จะหลบมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ ด้านขวา หรือเศษยางระเบิดที่อยู่ด้านซ้าย แบบกะทันหัน ต้องรั้งพวงมาลัยให้จงหนัก ไม่อย่างนั้นมีโอกาสดึงเข้าไปเฉียดฉิวได้

มองที่จอข้อมูล เห็นสัญลักษณ์ระบบหน่วงตัวรถไม่ให้ไปข้างหน้า เมื่อหยุดรถจนนิ่งสนิท แม้เกียร์จะยังอยู่ในตำแหน่ง D ก็ตาม หรือที่เอ็มจีเรียกว่า Auto Vehicle Hold ที่ช่วยลดความเมื่อยล้า ในการกดแป้นเบรกนานๆ แต่มองหาปุ่มสั่งงานไม่เจอ

ด้วยเพราะระบบนี้ในเอ็มจี 4 ให้สั่งงานด้วยการกดแป้นเบรกย้ำอีกครั้ง เมื่อรถหยุดสนิท ชอบตรงสะดวกดี ถ้าติดไหลๆ ไม่ต้องย้ำ แต่หากประเมินแล้วดูจะนิ่งสนิท ก็แค่กดซ้ำอีกครั้ง เมื่อต้องการออกตัว กดไปที่แป้นคันเร่ง ตัวรถพร้อมออกเดินทางโดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์แต่อย่างใด

หันหัวรถมุ่งหน้า จ.ฉะเชิงเทรา แต่ก่อนจะขับยาวๆ เลือกที่จะปิดระบบความปลอดภัย ในส่วนของช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน

รวมถึงตั้งค่าการชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ เมื่อชะลอรถ ให้เป็นแบบ LOW ทำให้การขับขี่เป็นธรรมชาติ และสนุกขึ้นอย่างมาก จนนึกว่ากำลังซิ่งอยู่บนรถสปอร์ตชั้นดี แต่มีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปปรับใหม่ทุกครั้ง เพราะตัวรถจะไม่จำไว้ กลับไปที่มาตรฐานเมื่อสตาร์ตรถใหม่ทุกครั้ง

ใช้เส้นทาง ถ.สุวินทวงศ์ ที่วันนี้ปรับปรุงเสร็จกลายเป็นถนน 6 เลน แถมยังค่อนข้างโล่ง ไปกันได้แบบชิลชิล

ขับตามๆ กันอยู่ ที่ความเร็วประมาณ 60-70 ก.ม.ต่อช.ม. แต่เพราะมองเห็นเลนซ้ายที่โล่งกว่า กดคันเร่งกระชากตัวรถไปยังเลนที่ต้องการ ความเร็วไปอยู่ที่ 120 ก.ม.ต่อช.ม. แทบจะในทันที

ด้านหน้าทางโล่งยาว เพิ่มน้ำหนักเท้าอีกนิด 130-140-150 ก.ม.ต่อช.ม. จนเกือบทะลุ 160 ก.ม.ต่อช.ม. ความเร็วมาแบบไม่มีการออมแรง และดูเหมือนจะไปได้อีก เพียงแต่ถนนมีให้ขับเพียงแค่นั้น

พวงมาลัยที่ค่อนข้างคม รวมถึงช่วงล่างที่มีความเสถียร ไม่ว่าจะบนย่านความเร็วสูง เปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

เอ็มจี 4 พัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC นวัตกรรมล่าสุดที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS

หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER

ภายในดีไซน์เรียบง่าย พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชัน หน้าจอข้อมูลขนาด 7 นิ้ว ชัดเจนสบายตา หน้าจอกลางระบบสัมผัส 10.25 นิ้ว รองรับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์

เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง ปุ่มเกียร์ใช้งานด้วยการหมุน ใกล้กันเป็นเบรกมือไฟฟ้า และถาดวางของอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายได้ด้วย

เหลือบดูกำลังไฟที่เหลือ 24% วิ่งได้อีก 84 ก.ม. ระยะทางที่วิ่งไปแล้ว 206 ก.ม. ใช้กำลังไฟฟ้าไป 70% อนุมานง่ายๆ ชาร์จเต็ม 100% ประมาณ 300 ก.ม. กับการใช้งานจริง ไม่ได้เน้นเอาตัวเลขความประหยัด ตรงนี้ถือว่าพอรับได้

ส่วนการชาร์จไฟฟ้า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับกำลังไฟของตู้ และหัวชาร์จ ถ้าไม่ได้รีบร้อนไปไหน หาหนังสือเล่มโปรดมานั่งอ่านระหว่างรอชาร์จ ชีวิตดูสโลว์ไลฟ์ แถมได้ประโยชน์ และยังช่วยให้รู้สึกว่าชาร์จไวกว่าที่คิดไว้มากเลยทีเดียว

เอ็มจี 4 มีให้เลือก 2 รุ่น ตัวเริ่มต้น รุ่น D ราคา 869,000 บาท ส่วนคันที่นำมาทดสอบเป็นตัวท็อป รุ่น X ราคา 969,000 บาท

แวะไปลองสัมผัส รถอีวีตัวแรง บุคลิกรถสปอร์ต อย่างเจ้าเอ็มจี 4 ได้ที่โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน