ฮีลใจ สำหรับกิจกรรม “รักน้อง คล้องใจ…นักศึกษาใหม่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ภายในงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2566 นอกจากรับชมวีดิทัศน์และรับมอบโอวาทจากคณะผู้บริหารราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์แล้ว ช่วงเสวนา “ชีวิตคิดบวก” เป็นการแชร์ประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย โดยเชิญ “พี่หมอเจี๊ยบ” แพทย์หญิงลลนา ก้องธรนินทร์ แพทย์เฉพาะทาง แผนกฉุกเฉิน และประธานผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Let’s Be Heroes มาพูดคุยถึงประสบการณ์การเรียน เป็นแนวทางให้น้องๆ นักศึกษาใหม่ปรับตัวและดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในรั้วราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

“เจี๊ยบผ่านการสอบตกมาแล้ว ประสบการณ์นี้เชี่ยวชาญมาก ตอนเด็กๆ สอบได้เกรดศูนย์นะ วิทยาศาสตร์เกรดสอง ยิมนาสติกเกรดหนึ่ง ปกติไม่เก่งวิชาการก็ต้องเก่งกีฬา แต่นี่ไม่เก่งสักอย่าง พ่อแม่ไม่หวังอนาคตแล้ว แต่ตัวเองคิดบวกว่าถ้าฉันอยากเป็นหมอ ฉันน่าจะทำได้ ถ้าเรามีความพยายามตั้งใจแล้วก็ลองดูสักตั้ง มองตามความเป็นจริงว่าเราได้เรียนหนังสือเหมือนเพื่อนคนอื่น แขนขาก็มีครบ ทำไมจะทำ ไม่ได้ล่ะ ถ้าตอนนั้นไปคิดว่าฉันเคยเรียนแล้วสอบตก จะเอาความสามารถที่ไหนไปเรียนหมอ ถ้าคิดบั่นทอนตัวเองตั้งแต่วันนั้น วันนี้ก็คงไม่ได้เรียนแพทย์มีประสบการณ์มาคุยให้น้องๆ ฟัง

คิดบวก คือ มองตามความเป็นจริง ลงมือทำ ไม่ดูถูกตัวเอง ไม่ฟังเสียงในหัวที่มาบั่นทอน หรือจะฟังก็ได้แต่ให้มองเป็นมุมท้าทาย ถ้ามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่กลัวที่จะทำ สุดท้ายจะมีอะไรดีขึ้นในชีวิตของทุกคน”

พี่หมอเจี๊ยบกล่าวด้วยว่า “ดีใจที่เห็นน้องๆ มีความตั้งใจที่ดี อยากเรียนในสาขาที่ได้ช่วยคน ขอให้เก็บความตั้งใจเอาไว้และ มุ่งมั่นไปให้ถึงฝันทุกคน แต่การตั้งใจเรียนก็อย่าเครียดมากเกินไป ต้องมีทั้งเรียนและเล่นด้วย ถ้าเครียดต้องหาคนปรึกษา ทุกอย่างมีทางออก อดทน สร้างกำลังใจให้ตัวเอง แล้วไปถึงเป้าหมายให้ ได้นะคะ”

ด้านนักศึกษาใหม่ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ น.ส.พนิดา ดาววง นักศึกษาทุนจาก สปป.ลาว หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี กล่าวว่า “ได้ฟังพี่หมอเจี๊ยบพูดได้รับความรู้หลายอย่าง รวมถึงแรงบันดาลใจ อยากเป็นอาจารย์พยาบาลที่ประเทศของตัวเอง และส่งความรู้ให้น้องรุ่นต่อไป”

น.ส.กนกเกตุ เลาห์ทวี หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ข้อมูลสุขภาพ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน เผยว่า เรียนด้านสุขภาพที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รู้สึกว่าในอนาคตเรื่องดิจิทัลหรือคอมพิวเตอร์น่าจะมาแรงและมีประโยชน์มาก ในสาขาที่เรียนก็ได้ประโยชน์ทางการแพทย์ ตัวหลักสูตรเน้นพื้นฐานการนำข้อมูลต่างๆ ในโรงพยาบาลมาปรับใช้ แล้วมาพัฒนาต่อยอดเพื่อประโยชน์ทางด้านสาธารณสุข

นายธรพจน์ พจน์พิพัฒน์ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต พ.ศ.2563 วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน กล่าวว่า “แรงบันดาลใจในการเรียนแพทย์เนื่องจากพ่อแม่มีโรคประจำตัว หากได้เจอผู้ป่วยที่ท้อแท้ไม่มีแรงบันดาลใจก็อยากเป็นแรง บันดาลใจให้เขาในวินาทีที่ไม่ดี อยากมาเรียนสั่งสมความรู้แล้ว นำไปต่อยอดเพื่อรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างจังหวัด ห่างไกล ยังเข้าถึงการรักษายากลำบากซึ่งมีอยู่อีกมาก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน