นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีปฐมนิเทศพระนิสิตทุนพระราชทานโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ประจำปีการศึกษา 2565 พร้อมทั้งบรรยายพิเศษ ที่หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม ว่า วิถีคนไทยที่ดีงามนั้นมีมาตั้งแต่อดีต เปรียบเหมือนเสื้อตัวที่หนึ่ง จากนั้นก็รับพระพุทธศาสนาเถรวาทเข้ามา ซึ่งมีความเข้ากับวิถีคนไทยได้เป็นอย่างดี เปรียบเหมือนเป็นเสื้อตัวที่สอง ดำรงอยู่มาเป็นพันปี แต่เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีอิทธิพลของชาติตะวันตกเข้ามา ซึ่งเปรียบได้กับเสื้อตัวที่สาม ทำให้คนไทยบางคนไม่เอาความเป็นไทย ไม่เข้าวัด จะถอดเสื้อตัวที่หนึ่ง ตัวที่สอง จะเอาแต่ตัวที่สาม ซึ่งมองว่าไม่ใช่ เป็นคำถามใหญ่ หลายประเทศเจอปัญหาเช่นนี้หมด เพราะเด็กรุ่นใหม่บริโภคแนวคิดผ่านแต่โซเชี่ยลมีเดีย ไม่ได้มาจากพ่อแม่สอน พระสอน แต่มาจากใครไม่รู้ในโซเชี่ยลมีเดียมาให้ความเห็น ถูกหรือผิด บิดเบือนหรือไม่ ไม่มีใครกรอง โซเชี่ยลมีเดียเป็นข่าวที่ไม่มีใครกรอง หนังสือพิมพ์ยังมีกองบรรณาธิการช่วยกรอง โทรทัศน์ วิทยุ ก็จะมีผู้ที่ทำหน้าที่คอยกรอง คอยรับผิดชอบ แต่ในโซเชี่ยลมีเดียทุกคนสามารถใส่ความเห็นได้หมด โลกยุคใหม่จึงตกในสถานะที่ลำบาก ไม่ได้รับการถ่ายทอดความคิดที่ถูกต้อง
นพ.เกษมกล่าวต่อไปว่า “เรากำลังเจอความท้าทาย คงจะต้องเป็นหน้าที่ของคนไทย ให้ยึดมั่นในความเป็นไทย ในศาสนาพุทธ และถ่ายทอดความคิดลงในรุ่นต่อไป เพื่อจะได้ฝากบ้าน ฝากเมืองไว้คนรุ่นต่อไปได้ด้วย ต้องให้คนไทยเข้าวัดให้บ่อย ให้มาก สร้างกิจกรรมทางศาสนาให้บ่อยขึ้น ให้คนหลายช่วงอายุได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน จึงอยากฝากหลวงพ่อ หลวงพี่ ควรจัดกิจกรรมในวัด และรอบวัดให้มาก เพื่อส่งเสริมให้คนเข้าวัดโดยเฉพาะเด็ก หากปล่อยให้คนไทยไม่เข้าวัด วันหนึ่งวัดอาจจะร้าง หวังว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเมืองไทย”
นพ.เกษมกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เดิมพิจารณาเฉพาะพระ เณร ที่เป็นคนไทย และตั้งแต่ปี 2565 ได้เพิ่มทุนให้พระ เณร ชาวต่างชาติ ที่มี พระอุปัชฌาย์เป็นพระไทย ให้มีสิทธิ์ได้รับพระราชทานทุนด้วย
