พรรคประชาธิปัตย์ยังคงวุ่นวายต่อ ประชุมเลือกหัวหน้า 2 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ
ส่วนหนึ่งมาจากการเล่นเกมกันเองระหว่างขั้วต่างๆ จนถึงขั้นล่มประชุม
การโหวตนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งทำให้บานปลายต่อ เมื่อนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ลงมติไม่เห็นชอบ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ งดออกเสียง พร้อมสส.จำนวนหนึ่ง
แต่อีก 16 เสียง นำโดยนาย เดชอิศม์ ขาวทอง แกนนำภาคใต้ โหวตเห็นชอบ
จนมีความเคลื่อนไหวให้เอาผิดฐานแหกมติพรรค โทษถึงขั้นขับออก
เรื่องนี้นายเดชอิศม์ ตอบโต้ว่า ประชาธิปัตย์แปลกตรงที่เสียงส่วนน้อยจะดังกว่าเสียงส่วนมาก และอดีตสส.หรือสส.สอบตก จะเสียงดังกว่า สส.สอบได้ คนที่อยู่นอกพรรค เสียงดังกว่าคนในพรรค
นายเดชอิศม์กล่าวถึงกรณีกล่าวหาพวกตนไปขอร่วมรัฐบาลไม่อายเขาหรือ ขอยืนยันว่าตัวสส.ไม่มีอำนาจเข้าร่วมรัฐบาล หลักของประชาธิปัตย์คือต้องเทียบเชิญมาแล้วประชุมร่วมกันออกมติ
Advertisement
พร้อมยกตัวอย่างการเลือกตั้งปี 2562 ที่ถกเถียงกันมาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสาธิต ปิตุเตชะ คัดค้าน ไม่อยากร่วมรัฐบาล หรือส่งเสริมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถกเถียงกัน 1 วัน 1 คืน สุดท้ายจบตรงลงมติ 61 ต่อ 16 ให้ร่วมรัฐบาล
จากนั้นนายสาธิตก็รับตำแหน่งรมช.สาธารณสุข นายชวนเป็นประธานสภา
“อยากฝากถึงคนประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเรื่องที่ได้จำนวนสส.ลดลงว่านโยบายโดนใจ ตรงต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ ก็ต้องปรับต้องแก้ อย่าฟังลิ่วล้อมากเกินไป ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ใช้สติและคิด และกาฝากในประชาธิปัตย์ก็มี เป็นใหญ่เป็นโต เพราะเลียแข้งเลียขาผู้ใหญ่” นายเดชอิศม์ระบุ
พร้อมเสนอว่าประชาธิปัตย์ ต้องกลับมาเริ่มคิดและนับหนึ่งใหม่ บางคนอาจจะโดนติดคุกที่มีเรื่องมีคดี เราอย่าคิดว่าเป็นพรรคอื่นที่เราไม่ชอบจะเป็นคนชั่วหมด เป็นประชาธิปัตย์แล้วต้องเป็นคนดีทั้งหมด เพราะประชาธิปัตย์ก็มีทั้งที่ติดคุกและกำลังจะติดคุก
ฟังแล้วน่าคิด!!
เภรี กุลาธรรม