เอเอฟพีรายงานวันที่ 4 ก.ย. ว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุผ่านแอพพลิเคชั่นเทเลแกรมว่า กองกำลังรัสเซียทำลายเรือ 4 ลำของกองทัพยูเครนในน่านน้ำทะเลดำ “เครื่องบินของกองเรือทะเลดำทำลายเรือของยูเครนรุ่นวิลลาร์ด ซี ฟอร์ซที่ผลิตโดยสหรัฐอเมริกา จำนวน 4 ลำ” และว่าเรือทั้งสี่ลำกำลังเดินทางไปในทิศทางของแหลมทาร์คานคุตบนชายฝั่งไครเมีย

ก่อนหน้านี้มีการโจมตีในลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากทางการรัสเซียระบุว่ากองกำลังรัสเซียทำลายเรือของกองทัพยูเครน 4 ลำที่บรรทุกทหารมากถึง 50 นายในพื้นที่ทะเลดำ นอกจากนี้เช้าวันเดียวกันกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุด้วยว่ามีความพยายามโจมตีในทะเลดำอีกเหตุการณ์หนึ่ง แต่รัสเซียสามารถสกัดกั้นโดรนของยูเครนได้ และเมื่อวันเสาร์ที่แล้วมีการโจมตีแหลมไครเมียเช่นกัน โดยรัสเซียระบุว่าทำลายโดรนของกองทัพเรือยูเครน 3 ลำที่มุ่งเป้าไปยังสะพานเชื่อมคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเหตุไฟไหม้คลังน้ำมันในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับสองของรัสเซีย เมื่อเวลาราว 11.00 น. ของวันที่ 3 ก.ย. กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินระบุว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนับร้อยนายเร่งระดมกำลังเข้าดับไฟที่โหมไหม้และเผาวอดพื้นที่เป็นบริเวณกว้างกว่า 800 ตารางเมตร ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

วันเดียวกัน ทางการเมืองออแดซา ทางตอนใต้ของยูเครน แถลงว่ายิงทำลายโดรนของรัสเซีย 17 ลำที่พุ่งเป้าโจมตีเขตเทศบาลอิซมายิล ใกล้ชายแดนโรมาเนีย อย่างไรก็ตาม เศษซากของโดรนที่ถูกยิงยกสร้างความเสียหายให้กับอาคารและโกดังบางส่วน ขณะที่รัสเซียแถลงว่ากำหนดเป้าหมายโจมตีที่โรงงานเก็บเชื้อเพลิงในเมืองเรนี และเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนการหารือระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีเรเจป ไตย์ยิป เอร์โดอัน ผู้นำตุรกี ด้วยหวังว่าจะฟื้นข้อตกลงเปิดทางให้ยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน