สนพ.เตรียมเสนอรื้อแผนพีดีพี หลังปริมาณการใช้รถอีวีมาแรง คาดดันยอดใช้ไฟฟ้าพีกสุดในปี 2570 ก่อนเสนอที่ ครม.เห็นชอบ ส่วนปี 2566 ความ ต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2.4%

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.คาดว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางคืนจะพีกที่สุดในปี 2570 เนื่องจากการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้ รถอีวีของประเทศไทย เพราะผู้ใช้รถอีวีส่วนมากมักชาร์จรถเวลากลางคืน ดังนั้น สนพ.จึงเตรียมเสนอแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ต่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ให้เร่งตัดสินใจก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะรอบสุดท้าย ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป

สำหรับปี 2566 ทั้งปี สนพ.คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 201,913 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 2.4% จากครึ่งแรกของปีนี้พบว่าการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 101,043 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 2.2% โดยการใช้ไฟฟ้าในสาขาธุรกิจโรงแรม อพาร์ตเมนต์ และเกสต์เฮาส์ เพิ่มขึ้นสูงถึง 9.3% จากภาคการท่องเที่ยวและบริการที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือน เพิ่มขึ้น 4.8% และสาขาอื่นๆ (องค์กรไม่แสวงหากำไร สูบน้ำเพื่อการเกษตร ไฟฟ้าชั่วคราว และไฟฟ้าสาธารณะ) เพิ่มขึ้น 10.5%

ขณะที่การใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม ลดลง 3.8% จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้การผลิตสินค้าเพื่อส่งออกหดตัว

อย่างไรก็ตาม สนพ.ยังคงติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ หลังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัว 2.5-3% ตามการฟื้นตัวของภาคการ ท่องเที่ยว การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ทั้งยัง ต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ทิศทางราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางและมาตรการช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตพลังงานในอนาคตต่อไป

ปัจจุบันสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาอยู่ที่ 53,022 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) 32% ปริมาณ 17,024 เมกะวัตต์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 31% ปริมาณ 16,237 เมกะวัตต์ ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) 18% ปริมาณ 9,303 เมกะวัตต์ การนำเข้า 12% ปริมาณ 6,235 เมกะวัตต์ และผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก (VSPP) 8% ปริมาณ 4,223 เมกะวัตต์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน