ศาลาว่าการกทม. – เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายสุนทร สุนทรชาติ ผอ.สำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารว่า จากการที่ ตั้งแต่เดือน ก.ค. ตลอดจนเดือน ส.ค.-ก.ย.66 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งโรคดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน ถือเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย พบบ่อยในช่วงอายุ 0-16 ปี

ส่วนสถานการณ์การระบาดของโรคใน กทม.ว่า ตั้งแต่เดือน มี.ค.-15 ก.ย.2566 พบมีการระบาดในโรงเรียน 14 แห่ง รวมถึงสถานที่ต่างๆ เช่น ค่ายทหาร ศาสนสถาน บ้านพักคนชรา รวม 17 แห่ง ใน 11 เขต ไม่พบผู้เสียชีวิต เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถรักษาได้ ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงการฉีดวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตั้งเป้าบริการฉีดวัคซีนให้คนกรุงเทพฯ จำนวน 317,650 ราย ต้นเดือน ก.ย. ฉีดไปแล้ว 263,005 ราย หรือคิดเป็น 83% เน้นกลุ่มเด็ก คนไข้ โรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ โดยจะเร่งรัดให้ครบ 100% เร็วที่สุด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ารับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. โดยการจองผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ หรือเข้ารับบริการด้วยตัวเอง หากศูนย์บริการสาธารณสุขมีวัคซีนพร้อมก็จะบริการให้ทันที แต่ทางที่ง่ายที่สุดควรจองผ่านแอพฯ เป๋าตังค์เนื่องจาก สปสช.กำหนด โดยฉีดได้ตั้งแต่อายุ 0-ผู้สูงอายุ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.ต้องดูแลเรื่องความเพียงพอของวัคซีน เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา กำลังทบทวนว่า กทม.จะประกาศเป็นโรคติดต่อหรือไม่ ต้องให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ กทม.พิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีโรค RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสที่ทำให้ติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ต้องดูแลเรื่องความสะอาดและล้างมือเพื่อป้องกัน

นายชัชชาติกล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (BANGKOK FILM-MAKING COORDINATION CENTER:BFMCC) โดยใช้อาคารทำการส่วนการท่องเที่ยว (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นที่ตั้ง โดยมีผอ.สำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว กทม. เป็นผอ.ศูนย์ประสานงาน โดยเป็น One-stop service ให้บริการทั้งคนไทยและต่างประเทศ

นายชัชชาติกล่าวว่า การจัดศูนย์ประสานงานดังกล่าว ถือว่าเป็นซอฟต์เพาเวอร์ตามนโยบายรัฐบาล โดยศูนย์นี้เพื่อช่วยในการประสานงานขอใช้พื้นที่สาธารณะ ทั้งหน่วยงานของกทม.รวมถึงหน่วยงานอื่นเพื่อให้เกิดความสะดวก และไม่ให้กีดขวางการจราจรสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน อาทิ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดงานกรุงเทพกลางแปลง วันที่ 3 ต.ค นี้

สำหรับแนวทางการอนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์และสื่อบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพฯ ในส่วนของพื้นที่สวนสาธารณะของกทม.คือ 1.ผู้ขออนุญาตต้องสำรวจพื้นที่สวนที่จะขอใช้ 2.ติดต่อกับสวนสาธารณะนั้นๆ หรือสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) 3.ยื่นคำขอก่อนใช้พื้นที่อย่างน้อย 7 วันทำการ 4.ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม มีอำนาจในการอนุมัติ และการอนุญาตไม่ควรเกิน 3 วันทำการ หากเกินจากนั้นต้องแจ้งเหตุผลให้ทราบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน