เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งนายกฯ แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ 9 คนว่า ตำแหน่งดังกล่าวไม่ใช่ข้าราชการการเมือง แต่เป็นการเชิญ ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขามาช่วยงาน ผู้สื่อข่าวถามว่าบางคนที่มีตำแหน่งในบริษัทเอกชน ต้องลาออกเพื่อมาช่วยงานหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน การให้คำแนะนำเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ เหมือนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ มาให้คำแนะนำตามที่แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ต่อข้อถามถึงที่ปรึกษาบางคน มีตำแหน่งอยู่ในบมจ.แสนสิริ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า กรรมการชุดดังกล่าว มาจากหลายวงการ มีความสามารถ และเราได้จัดลำดับความสำคัญของเรื่องนี้เป็นอย่างดี จะไม่เชิญคนที่ไม่รู้อะไรมาเป็นที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ได้มอบหมายงานให้ที่ปรึกษาอย่างไรบ้าง นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า แต่ละคนเชี่ยวชาญแต่ละด้าน เช่น นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เชี่ยวชาญเรื่องเกษตรและพาณิชย์ ขณะที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ มีความเข้าใจเรื่องการเมืองและงบประมาณ ด้านนายพิชิต บานชื่น เกี่ยวข้องกับงานด้านกฎหมาย ส่วนคนอื่นเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ รัฐบาลยึดการทำงานร่วมกันเพื่อประชาชนและเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่ปรึกษาของนายกฯ ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษา อดีตรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บมจ.บบางจาก คอร์ปอเรชั่น นายศุภนิจ จัยวัฒน์ คณะกรรมการบมจ.แสนสิริ นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย นายพิชิต ชื่นบาน หัวหน้าทีมทนายความของตระกูลชินวัตร ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวจะได้เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก่อนที่ชื่อจะหายไป นายชลธิศ สุรัสวดี คณะทำงานนโยบายที่ดินและสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ และนายสุรยุทธ์ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ บีทีเอส และผู้สมัครสส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 78 ของพรรคเพื่อไทย
