วันที่ 20 ก.ย. บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค พื้นที่พิพาทระหว่างอาเซอร์ไบจานกับอาร์เมเนีย สองอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตในแถบเทือกเขาคอเคซัส หลังจากอาเซอร์ไบจานเปิดฉากปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย พร้อมยืนกรานว่าจะไม่หยุดจนกว่าผู้แบ่งแยกดินแดนเชื้อสายอาร์เมเนียจะยอมจำนน ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. ว่า หลังผ่านไป 24 ชั่วโมง กับจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ราย และมากกว่า 200 คนได้รับบาดเจ็บ กองกำลังอาร์เมเนียตกลงตามข้อเสนอของรัสเซียในการยุติการโจมตี หนึ่งในข้อตกลงสำคัญคือกองกำลังอาร์เมเนียยอมรับข้อเสนอในการปลดอาวุธอย่างสมบูรณ์

ความตึงเครียดในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคเริ่มคุกรุ่นและยกระดับความรุนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ราว 3 ปีภายหลังสงครามครั้งใหญ่ในภูมิภาคจะยุติลงด้วยการประสานของรัฐบาลรัสเซียซึ่งเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง แต่เพราะรัสเซียหันเหความสนใจไปยังปฏิบัติการรุกรานยูเครน ส่งผลให้พื้นที่แห่งนี้กลับมาระอุอีกครั้ง

เอเอฟพีระบุว่าทางการฝรั่งเศสเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เปิดการประชุมฉุกเฉิน นางกาเตอรีน โกลอนนา รมว.ต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่าปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายของอาเซอร์ไบจานนั้นผิดกฎหมายและไม่อาจยอมรับได้ นายแอนโทนี่ บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อสายพูดคุยกับผู้นำอาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนีย โดยขอร้องต่อประธานาธิบดีอิลฮัม แอลีเยฟ ให้อาเซอร์ไบจานยุติการโจมตีทันที

ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียเรียกร้องให้ยุติการสู้รบและยุติการนองเลือด ส่วนโฆษกของนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุจากแถลงการณ์ว่า นายกูแตร์เรสเรียกร้องให้อาเซอร์ไบจานยุติการสู้รบในทันที รวมถึงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 2563 และเคารพหลักการกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน