เตรียมเช็กอินเข้าสู่โรงแรมนักฆ่า ที่จะพาทุกคนเดือดไปพร้อมกัน กับเรื่องราวปฐมบทแห่งจักรวาล จอห์น วิค ในซีรีส์แอ๊กชั่นสุดมันส์ The Continental : From the World of John Wick (เดอะคอนทิเนนทัล : จากโลกของจอห์น วิค)

พูดถึงหนัง จอห์น วิค คอหนังสายบู๊คงไม่มีใครไม่รู้จัก ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2566 ภาพยนตร์ในจักรวาลจอห์น วิค ทำรายได้ไปแล้วมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญทั่วโลก

สำหรับซีรีส์เดอะคอนทิเนนทัลฯ จะเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดและฉากหลัง ‘โรงแรมนักฆ่า’ ศูนย์กลางของจักรวาลจอห์น วิค ผ่านมุมมองและภารกิจของ วินสตัน สก็อต วัยหนุ่ม

โดยผู้ที่รับบท วินสตัน สก็อต ในครั้งนี้คือนักแสดงหนุ่ม โคลิน วูดเดลล์ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงดังอีกมากมายมาร่วมสร้างสีสัน ไม่ว่าจะเป็น เมล กิบสัน, มิเชล ปราดา, เบน ร็อบสัน, อูแบร์ ปวง-ดู-ฌูร์, นุห์ง เคท, อาโยมิเด อาเดกุน ฯลฯ

ซีรีส์จะเริ่มสตรีมทาง Prime Video ในวันที่ 22 กันยายนนี้ แต่ก่อนจะไปชมมาฟังหนุ่ม โคลิน วูดเดลล์ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้








Advertisement

★ ช่วยแนะนำ The Continental?
โคลิน – “The Continental เป็นเรื่องราวก่อนหนังในจักรวาลจอห์น วิค และถ้าคุณเคยดูหนังเหล่านั้นแล้ว ซีรีส์นี้ก็จะเป็นตัวแนะนำโลกนั้นให้คุณรู้จัก เป็นช่วง 30-40 ปีก่อนหนัง เป็นการแนะนำตัวละครหลายๆ ตัว แนะนำแง่มุมต่างๆ ของจักรวาลจอห์น วิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรม The Continental นอกจากนั้น ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุกสนานซ่อนอยู่ถ้าคุณเคยดูหนังและจำมันได้”

“สิ่งที่เจ๋งในจักรวาลนี้ก็คือเป็นเรื่องราวที่เกิดในมหานครนิวยอร์ก เลยทำให้เห็นองค์ประกอบทั้งหมดจากโลกจริงๆ ของเรา แต่นำไปผสมผสานกับโลกอาชญากรรมใต้ดิน มีจิตวิญญาณมืดมัว แต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีสีสันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ที่เราไม่ได้เห็นในตัวหนังด้วย”

★ อะไรเป็นเอกลักษณ์ของฉากบู๊ใน ซีรีส์นี้?
โคลิน – “ผมว่าการต่อสู้มีความโก้หรูอยู่ ซึ่งนี่แหละเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ ไม่เคยมีใครเห็นฉากการต่อสู้หรือการยิงปืนที่ออกแบบมาราวกับท่าเต้นรำแบบนี้มาก่อน ผมคิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากคีอานู (รีฟส์) ที่นำมาสู่ตัวละครจอห์น วิค ตัวละครก็เต็มไปด้วยชีวิต กล่าวคือไม่ใช่ตัวละครที่ทำออกมา ล้อเลียน เป็นคนจริงๆ ผมว่าเจ๋งดีนะครับ เพราะเราจะได้เห็นด้านต่างๆ เล็กๆ ในตัวละครเหล่านี้ที่แสดงออกมา แต่ก็ไม่ได้ออกมามากเกินไป เลยทำให้คุณยิ่งอยากจะรู้เพิ่ม ตอนผมเห็นครั้งแรก ผมว้าว ออกมาเลย ไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน ผมว่ามันพิเศษมาก”

“สิ่งที่เจ๋งอีกอย่างคือเราได้ตัว 87eleven ทีมงานนักแสดงผาดโผนสตันต์จากจอห์น วิค แล้วการแสดงของพวกเขาคือสุดยอด ตะลึงไปเลย ดูพวกเขาแสดง ดูสิ่งที่พวกเขาสรรค์สร้างแล้วเหมือนดูร่ายรำ จึงเป็นการยกย่องฉากต่อสู้ได้มากเลยครับเมื่อมีทีมงานนี้ด้วย”

★ คุณฝึกซ้อมมากแค่ไหนเพื่อฉากต่อสู้?
โคลิน – “ก็ตลกดีครับ พอไปถึง ผมตื่นเต้นมาก เพราะผมประมาณว่าในที่สุดก็ได้ฝึกซ้อมบทชายจอมบู๊ พอมาถึงที่นี่ เริ่มอ่านบทแล้วก็แบบ เออ ก็ไม่ค่อยได้มีอะไรทำมากนักนะ และถ้าจะต้องทำอะไรบ้าง ก็แค่หลบวิถีกระสุนเอาตัวเองรอดจากสถานการณ์ต่างๆ ผมไม่ได้เตะต่อยอะไรเลย ผมว่าสิ่งที่เจ๋งของวินสตันก็คือ เขาเป็นคนฉลาดหลักแหลม นี่เป็นพลังวิเศษของเขา ไม่ใช่เรื่องต่อยตี แล้วก็เอาชนะได้ทุกคน การฝึกซ้อมจึงขำๆ นิดหน่อย คือทุกคนก็จะแสดงฉากต่อสู้ผาดโผนแล้วก็จะพูดว่าเจ็บตรงนั้นตรงนี้ ส่วนผมก็…จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”

★ ถ้าไม่ใช่นักสู้ คุณว่าวินสตันมีลักษณะอย่างไร?
โคลิน – “ถ้าดูจากการที่เติบโตมา แต่เด็กแล้ว วินสตันมีแผลในใจ และ เราก็รู้ได้จากฉากย้อนเวลาหรือแฟลชแบ๊ก เราจะเห็นว่าเขาไม่ใช่คนที่หัวร้อนเร็ว ในแง่ของการต่อสู้นะครับ แต่ก็ต้องเอาตัวรอด ดังนั้น สิ่งที่เราพูดคุยกัน ก็คือ ทำให้วินสตันเป็นคนที่เก่งในเรื่องพาตัวเอง หลุดออกมาจากสถานการณ์ต่างๆ ได้ เขามักจะต่อสู้เพื่ออะไรบางอย่างเสมอ และก็ไม่ได้ชนะเสมอไป แต่เป็นข้อมูลที่ดีมากที่เราได้รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เพราะวินสตันได้เรียนรู้ว่าคุณจะต้องเป็นนักสู้หรือเป็นมันสมอง”

★ คุณช่วยอธิบายเรื่องเหรียญทองหน่อย เหรียญพวกนี้มีความหมายสำคัญอย่างไรในโลกนี้?
โคลิน – “เหรียญก็เป็นเหมือนสกุลเงิน คุณจะซื้ออะไรก็ได้ด้วยเหรียญ แต่สิ่งที่ น่าสนใจก็คือสิ่งที่เหรียญเหล่านี้เป็นตัวแทน กล่าวคือ เหรียญเหล่านี้เป็นตัวแทนของพิธีกรรมเปลี่ยนผ่าน มันทำให้คุณอยู่ในโรงแรม The Continental ได้ เหรียญเหล่านี้ยังเป็นตัวแทนสถานะของเจ้าของ ผมว่าคุณน่าจะเดาออกนะ มันขึ้นอยู่กับมูลค่าของเหรียญ เครื่องปั๊มเหรียญจึงสำคัญมาก เพราะถ้าเครื่องนี้ตกไปอยู่ในมือคนชั่ว ก็จะสามารถปั๊มเหรียญได้มากเท่าไหร่ก็ได้ และเหรียญก็ล้นตลาด ทำให้สูญเสียมูลค่า”

★ ตัวละครวินสตันมีพัฒนาการอย่างไรบ้างในซีรีส์?
โคลิน – “รับบทวินสตันสนุกดีนะครับ เพราะผมได้เห็นว่ามันมีพัฒนาการเร็วมากและพัฒนาการเกิดขึ้นยังไง จนบางทีทำให้เราไม่มีเวลาคิดเลย ด้วยความที่เขาอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายที่ลอนดอน เขาจึงกดดันตัวเองให้ประสบความสำเร็จ เพราะเขาคิดว่าจะทำให้ตัวเองมีความสุข แต่พอเขาไปเจอพี่ชาย เขาจึงเริ่มเข้าใจแต่ก็ยังไม่ทั้งหมดว่าสิ่งที่เขาขาดไปคือครอบครัวและความรัก ดังนั้น สำหรับเขาซึ่งเคยขับเคลื่อนตัวเองด้วยเพียงสิ่งเดียวมาเป็นเวลานาน แล้วมาฉุกคิดได้ว่าอยู่ในการโกหกมาโดยตลอด จึงทำให้ต้องใช้เวลาไตร่ตรองอยู่นานจนกว่าจะรู้ว่า มาถึงจุดนี้ เขาไม่มีอะไรจะเสียแล้ว และก็จะต้องจัดการด้วยตัวเขาเอง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน