รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรีและรมว.คลัง เข้าทำงานอย่างเป็นทางการได้ราว 2 สัปดาห์ มีเสียงสะท้อนหลากหลายแง่มุม ทั้งเรื่องนโยบายของรัฐบาล และท่าทีของนายเศรษฐาต่อสถานการณ์ต่างๆ
ล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เป็น นักกฎหมายที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลหลายชุดและในหลายหน่วยงาน ได้แสดงความเห็นถึงภาพรวมการบริหารงานของรัฐบาล ในบรรยากาศการเมืองปัจจุบันไว้อย่างชัดเจน
บุคลิกของนายเศรษฐา โดยเฉพาะการไหว้ แสดงให้เห็นถึงนิสัยใจคอน่าจะไปในทางที่ดี สังเกตเห็นความสุภาพอ่อนโยน ถ่อมตน นายกฯ เป็นคนตัวสูง กิริยาการไหว้หรือรับไหว้ จะเห็นว่ามีความสุภาพ อ่อนน้อม โค้งต่ำทุกครั้ง
หากนายกฯ พนมมือไหว้อยู่แค่หน้าอกก็จะแสดงถึงความยิ่งใหญ่ ข่มกันอยู่ ท่านรู้ตัว และคำพูดจาก็ถนอมน้ำใจคนฟัง ผิดจากสมัยการหาเสียงที่ตอนนั้นต่างคนต่างพูด แต่เมื่อมาถึงเวลานี้ นายกฯ พยายามเก็บกลั้นความรู้สึกหลายอย่าง ขณะนี้ยังทนได้ อีกหน่อยอาจจะทนไม่ได้ก็ได้ แต่คิดว่าน่าจะไปได้
วันนี้รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนนโยบายที่เคยสัญญาเอาไว้ตอน หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งต้องอาศัยเวลา ตอนหาเสียงไม่ได้มีพูดเงื่อนเวลา เพราะเป็นการจูงใจว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้ จะเสร็จ เมื่อเข้ามาทำจริงก็รู้ว่า ติดขัดและรัฐบาลต้องรู้ว่ามีการติดขัด ตัว 4 P คือ
Power อยากทำ แต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ เพราะติด ข้อกฎหมาย
Public budget อยากทำ มีอำนาจ แต่ติดที่งบประมาณ
Personnel ติดที่บุคลากร อยากทำ แต่ไม่มีคนที่มีความรู้เรื่องนั้น เช่น เรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ทั้งหลาย
Public opinion ติดที่ความเห็นประชาชน มีเงิน มีงบประมาณและมีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงมีบุคลากรที่จะทำ แต่ประชาชน ยังไม่ยอมรับ จึงยังทำไม่ได้
ฉะนั้นจะต้องเห็นใจรัฐบาลในทุกรัฐบาลที่จะเจอสภาพ 4 P นี้
ส่วนที่นายกฯ เป็นอดีตนักธุรกิจ จะทำให้เกิดความมั่นใจ และมีความหวังว่าจะทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นได้หรือไม่
นายวิษณุ เชื่อว่าไปได้ แต่จะพึ่งนายกฯ เพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยทีมงาน สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ เข้ามา บริหารหลังจากรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ สมัยนั้นฟองสบู่แตก เศรษฐกิจแย่ ค่าเงินบาทสูงขึ้นไปที่ 50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อรัฐบาลนายชวนสมัยสองเข้ามา เหตุการณ์ผ่านไปด้วยความสงบเรียบร้อยด้วยดี เป็นเพราะคนเชื่อถือนายกฯ คนใหม่ที่เข้ามา บวกกับสติปัญญา ความสามารถของรัฐมนตรีที่ร่วมทีม ที่มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ช่วยด้านเศรษฐกิจ
ดังนั้นนายเศรษฐาจะทำคนเดียว (only one) ไม่ได้ ต้องมีคน เข้ามาช่วยเหลือ เมื่อมีปัญหาต้องค่อยๆ แก้ไข จะคลี่คลายความ ยุ่งยากเข้าไปได้
“หากถามว่ามีอะไรจะฝากนายเศรษฐาหรือไม่ ตอนนี้คงไม่มี เอาไว้พบท่านเมื่อไรจะบอกท่านด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ยังไม่มีคิวที่จะ พบกัน” นายวิษณุกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนัดแรก นายกฯ สั่งทบทวนคณะกรรมการชุดต่างๆ และคำสั่ง คสช. หากไม่จำเป็นยกเลิกให้หมด ซึ่งนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการจะยกเลิกคำสั่งคสช. จะใช้วิธีการใดในการดำเนินการว่า
“มติครม.ก็ยกเลิกได้ ตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้ อยู่แล้ว”
เกี่ยวกับประเด็น ‘รัฏฐาธิปัตย์’ นายวิษณุระบุว่า คำว่า รัฏฐาธิปัตย์ แปลว่าผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขณะนี้ผู้ที่เป็นรัฏฐาธิปัตย์คือประชาชน เราจึงเรียกว่า ประชาธิปไตย ที่แปลว่าอธิปไตยเป็นของประชาชน แต่ถ้าพระเจ้าแผ่นดินเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เราก็เรียกว่า ราชาธิปไตย หรือถ้าคณะบุคคลเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เรียกว่าคณาธิปไตย หรือถ้าข้าราชการเป็นใหญ่ เรียกว่า อำมาตยาธิปไตย
แต่วันนี้เราเป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญจึงเขียนว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แค่นี้ก็แปลว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้ว ส่วนประชาชนใช้อำนาจผ่านทางผู้แทนราษฎร เพราะผู้แทนราษฎรเป็นผู้แทนปวงชาวไทย และสมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้แทนปวงชาวไทยเช่นกัน
ถ้ามีผู้ก่อรัฐประหาร บุคคลนั้นถือเป็นรัฏฐาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อย่างนั้นคือใช่ เพราะบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่เขียนว่า
“อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยได้ถูกยกเลิกไปแล้ว หลังจากเกิดรัฐประหาร”
