เป็นพ่อแม่ยุคใหม่ที่เลี้ยงลูกให้เดินตามฝันตามความชอบ สำหรับนักแสดงหนุ่ม พีท ทองเจือ และภรรยา เจ็ง วิไลลักษณ์ เพื่อให้ลูกทั้งสามคน น้องเซย่า ณิชฎา, น้องมิย่า พิชชา และ น้องโรเตอร์ ไพชยนต์ ได้ค้นหาตัวเองให้เจอโดยเร็ว

ซึ่งทั้งพีทและภรรยาต่างสนับสนุนลูกๆ เต็มที่ ทำค่ายเพลง Lil’ Brat Records เปิดตัวศิลปินเบอร์แรก ‘น้องมิย่า’ ลูกสาวคนรอง ล่าสุดถึงคิวลูกสาวคนโต ‘น้องเซย่า’ กับซิงเกิลแรก “Sometimes (แพ้ความผูกพัน)” ส่วนลูกชายคนเล็ก ‘น้องโรเตอร์’ เป็นนักแข่งรถอาชีพ

น้องเซย่าเป็นศิลปินเต็มตัว มีซิงเกิลแรกในชีวิต รู้สึกยังไงบ้าง?
พีท – “จริงๆ เพลงนี้เตรียมมา 5 ปีแล้ว ตั้งแต่ก่อนเตรียมไปเดบิวต์ที่เกาหลี น้องไป จอยกับค่ายค่ายหนึ่งที่เกาหลี พอไปแล้วมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ก็พยายามต่อสู้จนรู้สึกร่างกายไม่ไหวก็หยุดแล้วกลับมา ตอนนั้นอายุเกือบ 15 ไปตอน 14 ตอนแรกน้องเฟลเพราะไปไม่ถึงเป้าหมาย ก็เลยบอกให้โฟกัสสิ่งที่เราหยุดไปคือเรื่องเรียน ก็กลับมาแล้วสอบ GED สุดท้ายอายุ 16 ก็เข้ามหาวิทยาลัยศิลปากรได้ ปีนี้อยู่ปี 3 ทุกอย่างเข้าที่ก็เลยทำเพลงต่อ ออกมาเป็นโปรเจ็กต์ชื่อเพลง Sometimes (แพ้ความผูกพัน) เป็นการเดินทางชีวิตอันใหม่ที่ใช้ทั้งเวลาความพยายามทุกอย่าง แล้วความตั้งใจ ก็ดีใจที่น้องมาถึงวันนี้ได้”

ค่ายเพลงที่ทำคือค่ายเราเอง?
พีท – “ค่าย Lil’ Brat Records เป็นของน้องมิย่ากับน้องเซย่าทำงานกัน ผมแค่เป็นผู้ช่วย กับคุณเจ็ง อยากให้เขามีเวทีได้ฝึกแสดงออกทางความคิดความสามารถ จริงๆ น้องก็มีโอกาสจะได้ไปอยู่กับหลายๆ ค่าย แต่เขาเลือกทำเองดีกว่า ก็ให้เขาลองทำดู ส่วนเรื่องเงินทุน น้องลงทุนเอง จริงๆ อยากช่วยซัพพอร์ต แต่น้องบอกไม่เป็นไร เพราะเขาทำงานมา เก็บเงิน มันเป็นวิธีการใช้เงินอย่างถูกต้อง เป็นการซื้อชีวิต ซื้อเวลาให้ตัวเอง ซื้อสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ผมเห็นแล้วรู้สึกนึกไม่ถึง เขาพยายามสร้างตัวเองขึ้นมาด้วยตัวเอง เป็นเรื่องของการตามฝัน ถ้าเรามีความต้องการจริงๆ แล้วมีความอดทนไปถึงตรงนั้นได้ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอาเงินไปวางตรงนั้น แต่เป็นการตั้งใจที่จะเข้าไปอยู่ในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ เราอยากให้เป็นแรงบันดาลใจกับคนรุ่นใหม่ทุกคน”

ตอนนี้สุขภาพน้อง เซย่าเป็นยังไงบ้าง?
พีท – “ยังไม่หายเลย ตอนไม่สบายน้ำหนักขึ้นมา 14 กิโล ช่วงปีแรกไม่ได้ทานยา ใช้วิธีเติมวิตามินเข้าร่างกายแทน แต่มันไม่ตอบโจทย์ สุดท้ายหันมาทานยาตามที่หมอแนะนำ ตอนนี้น้ำหนักลงมา 8 กิโลก็ยังมีค้างอยู่เยอะ แต่ถ้าจะรอให้หาย 100% แล้วค่อยลุกมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอาจจะช้าไป มันเป็นเรื่องของความพร้อมทางด้านจิตใจความรู้สึก ถ้าพร้อมเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด”

ตอนนี้ลูกๆ เริ่มเติบโต ฉายความสามารถหลากหลาย คุณพ่อคุณแม่วางใจ หรือยัง?
พีท – “บ้านเราเลี้ยงลูกไม่เหมือนบ้านอื่น เราให้น้องทำในสิ่งที่ชอบ รีบลอง ค้นหาตัวเองให้เจอเร็วๆ โชคดีที่บ้านค้นหาตัวเองเจอเร็ว มีสะดุดหกล้มบ้าง แต่ต้องลุกให้เร็วและเดินต่อไปให้ได้ ลูกเดินเร็วพ่อแม่ก็ต้องสตรอง โชคดีน้องๆ เจอเส้นทางของตัวเอง อย่าง น้องโรเตอร์ เป็นนักแข่งรถเยาวชนมืออาชีพ ตอนนี้แข่งอยู่เมืองนอก เขาทำได้ด้วยความสามารถตัวเอง ส่วนมิย่า ปีนี้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร และเริ่มเป็นนักแข่งรถ ไม่เคยมีแผนนี้เลย แล้วน้องได้รับเกียรติและ ถูกเรียกจากทีมโตโยต้าเข้าไปทดสอบ และเขาทำได้ ผมเซอร์ไพรส์เลย”

เรื่องข่าวที่ผ่านมาให้กำลังใจลูกยังไง?
พีท – “ถ้าเลือกได้จะไม่ให้ลูกเข้าวงการบันเทิง เพราะมันเหนื่อย แต่ปรากฏเขาชอบและทำได้ดี มีแฟนๆ ตอบรับและติดตาม พอเป็นอย่างนั้นก็บอกเขาว่าการมาทำงานตรงนี้ ในแพ็กเกจการเป็นดารานักแสดง เราต้องเป็น จุดสนใจและเราจะอยู่กับสิ่งเหล่านั้นอย่างไร ถ้าคิดว่ารับได้ บริหารจัดการได้ก็อยู่ได้ มันเป็นเหมือนเงาเรา ถ้ามีอีโก้เยอะแล้วจับทุกอย่าง มารวมกัน ชีวิตก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าอะไรดี ก็เก็บไว้ แต่ถ้าอะไรไม่ดีก็ลบทิ้งไป เพราะชีวิตยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ”

อชริญา บุญชู

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน