ผ่านมาแล้วร่วมเดือน หลังจากที่ประชุมรัฐสภามีมติเลือกนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
แน่นอนว่าด้วยสถานการณ์การ เมืองที่พลิกไปพลิกมาอย่างที่เป็นมา ย่อมสร้างผลกระทบต่อความคาดหวังในมุมต่างๆ ทั้งพอใจ และเสียใจ
แต่ไม่ว่าอย่างไรชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา นานที่สุดก็คือ 4 ปี ตามอายุสภา ที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ
ซึ่งผ่านมา 1 เดือนเราได้เห็น ความคืบหน้า ทั้งในเรื่องลดราคาพลังงานค่าไฟ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลัก ของค่าครองชีพ
การพักหนี้เกษตรกร ที่ครม.อนุมัติไปแล้ว รอดูรายละเอียดและผลปฏิบัติจะเป็นอย่างไร
การเดินหน้าโปรโมตเรื่องการท่องเที่ยว เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมา จับจ่ายใช้สอยในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก
รวมถึงโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ ทั้งที่เชียงใหม่ และภูเก็ตที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในระยะยาวได้เป็นจำนวนมาก
ทั้งหมดเป็นแผนงานด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ริเริ่ม
อย่างไรก็ตามยังมีเรื่องมุมมองทางการเมืองที่หลายฝ่ายยังเฝ้ามองว่าจะเดินหน้าเมื่อใด และตรงตามความคาดหวังหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ก่อนเลือกตั้งทุกพรรค การเมืองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นปัญหา
และที่ผ่านมาก็พิสูจน์ได้แล้วว่าได้วางกับดักเอาไว้หลายต่อหลายชั้น จนทำให้ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ไม่สามารถแปลงเป็นรูปธรรมตามความต้องการของประชาชนได้
หรือกระทั่งปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่เวลานี้ก็ยังมีผู้ที่ต้องติดคุก หรือถูกจองจำเพราะความเห็นต่าง มีผู้ลี้ภัยทางการเมืองนอกประเทศจำนวนมาก หลายคนถูกอุ้มหาย หลายคนยังรอคอยที่จะได้กลับแผ่นดินเกิด
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่รัฐบาลจะต้องตอบ
และล่าสุด เครือมติชนได้จับมือกับเดลินิวส์ เพื่อทำโพลสะท้อนความรู้สึกของประชาชนว่าอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาอะไร ซึ่งจะสำรวจทางออนไลน์ในช่วงวันที่ 1-31 ต.ค. 66
ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ส่งเสียงให้ถึงรัฐบาล
ว่าประชาชนต้องการอะไร!!!
รุก กลางกระดาน