วันที่ 1 ต.ค. บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์สุ่มเสี่ยงเผชิญหน้ากับ “ภาวะชัตดาวน์” หรือรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องยุติการจ่ายงบประมาณให้กับหน่วยงานรัฐบาล หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน ฝ่ายค้าน ลงมติคว่ำร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้รัฐบาลดำเนินงานต่อไปได้จนถึงสิ้นเดือนต.ค. เมื่อ วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายเควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดรีพับลิกัน ยื่นเสนอร่างกฎหมายขยายงบประมาณรายจ่ายอีก 45 วัน จนถึงวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งในร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ระบุถึงความช่วยเหลือใหม่สำหรับยูเครน และสมาชิกสภา คองเกรสลงมติเห็นพ้องกับร่างกฎหมายล่าสุด เพียง 3 ชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเส้นตาย ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐรอดจากภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง
ด้านเอพีรายงานว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าพรรครีพับลิกันจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณช่วยเหลือยูเครน ที่แยกออกไปอีกฉบับหนึ่งในเร็วๆ นี้ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนคาดว่างบประมาณช่วยเหลือยูเครนจะผ่านเช่นกันหลังสภาลงมติพ้นภาวะชัตดาวน์ “ไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม เราไม่สามารถปล่อยให้การสนับสนุนของอเมริกาต่อยูเครนถูกขัดจังหวะได้” นายไบเดนกล่าวย้ำหลังแถลงยินดีที่สภาคองเกรสผ่านร่างงบประมาณ
สำหรับภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐนั้นเกิดขึ้นทั้งหมด 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2523-2562 โดยในปี 2556 สมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา มีการชัตดาวน์เป็นเวลานาน 16 วัน ส่วนสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีการชัตดาวน์ 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเป็นการชัตดาวน์บางส่วนนาน 35 วัน ในปี 2561-2562 นานที่สุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศ ภายหลังนายทรัมป์ปฏิเสธที่จะลงนามกฎหมายจัดสรรงบประมาณทุกฉบับที่ไม่รวมงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
