เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เอเอฟพีรายงานว่า พลเรือนปาเลสไตน์กว่า 1.1 ล้านคนเร่งอพยพจากพื้นที่ทางเหนือลงไปทางใต้ของฉนวนกาซ่า หลังเส้นตาย 24 ชั่วโมงของกองทัพอิสราเอลถึงกำหนดแต่อิสราเอลยอมขยายเวลาต่อให้อีก 8 ชั่วโมง ก่อนเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้ากวาดล้างกลุ่มนักรบฮามาส ท่ามกลางการวิงวอนของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น และสหภาพยุโรป หรืออียู ให้อิสราเอลทบทวนเนื่องจากเป็นไปไม่ได้

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า ยุทธการตอบโต้ของอิสราเอลต่อฮามาสเพิ่งเริ่มต้นขึ้น หลังอิสราเอลเผชิญกับการโจมตีจากฮามาสครั้งร้ายแรงที่สุด มีผู้ถูกสังหารกว่า 1,300 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และมีชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติถูกจับไปไว้เป็นตัวประกันโดยฮามาสในกาซ่าหลายร้อยคน

ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภารกิจโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกาซ่าก็ใหญ่หลวงเช่นกัน โดยทางการปาเลสไตน์เปิดเผยว่ามียอดผู้เสียชีวิตกว่า 2,125 รายแล้ว ในจำนวนนี้เป็นเด็กกว่า 724 ราย อย่างไรก็ตาม นายเนทันยาฮูยืนยันว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในกาซ่านั้นเป็นความรับผิดชอบของกลุ่มฮามาส เพราะเป็นฝ่ายข้ามแนวกั้นกาซ่าเข้ามาก่อเหตุโจมตีอิสราเอลก่อน

การสู้รบดังกล่าวยังสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก โดยเกิดการชุมนุมสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และอิสราเอลในหลายชาติทั่วโลก อาทิ จอร์แดน เบรุต อิรัก และอิหร่าน ที่มีผู้ชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ออกมาจำนวนมาก ขณะที่ในชาติยุโรปอย่างฝรั่งเศสนั้นมีสนับสนุนทั้งสองฝ่ายแต่ฝรั่งเศสปราบปรามฝ่ายปาเลสไตน์

สถานการณ์รุนแรงยังส่งผลให้มีผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์เสียชีวิต 1 ราย และจากสำนักข่าวอื่นบาดเจ็บอีก 6 คน อาทิ เอเอฟพี และอัลจาซีรา ถูกลูกหลงจากการยิงต่อสู้กันระหว่างกองทัพอิสราเอลกับนักรบฮิซบอลเลาะฮ์ทางภาคใต้ของเลบานอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน