นางสรัลธร อัศเวศน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดเผยว่า แนวโน้มการจับจ่ายของลูกค้า โดยเฉพาะที่สยามพารากอนในขณะนี้ยังอยู่ในระดับปกติ หรือมากกว่า 1.2 แสนคน/วัน

และในแง่การใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ แอพพลิเคชั่นกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งที่เป็นนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ยังถือว่าสูงสุดเมื่อเทียบกับศูนย์การค้าอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะเดียวกันในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ยังคงเตรียมทุ่มงบประมาณให้กับกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นอย่างเต็มที่ด้วย ล่าสุดยังได้ผนึกพลังกับ 7 พันธมิตรค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในประเทศท่องเที่ยวระดับโลก อาทิ ฮ่องกง ไทม์สแควร์, พาร์โก้ ญี่ปุ่น, ไอออน ออร์ชาร์ด สิงคโปร์, พาวิลเลี่ยน กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย, พลาซ่า อินโดนีเซีย, ไทเป 101 และฝอซาน ประเทศจีน

รวมถึงยังอยู่ระหว่างการหารือถึงความร่วมมือในการเป็นพันธมิตร กับฮุนได ดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์ เพื่อเชื่อมสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการของศูนย์การค้าสู่ ONESIAM SuperApp และดึงดูดฐานลูกค้าสมาชิกของพันธมิตร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาจับจ่าย รวมถึงอาลีเพย์, Klook และทริปดอทคอม กรุ๊ปที่จะให้สิทธิพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนและทั่วโลก

“จากสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล มีผลต่อเศรษฐกิจโลกโดยภาพรวม แต่จากการพูดคุยกับพันธมิตร โดยส่วนใหญ่แล้วเชื่อมั่นในศักยภาพของฐานลูกค้าในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง อาจจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งเศรษฐกิจโดยรวมอาจมีผลต่อฐานลูกค้าในวงกว้าง”

นางสรัลธรกล่าวด้วยว่า นโยบายวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน พบว่าช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ส่วนคาซัคสถานยังไม่เห็น หากรัฐบาลจะขยายเพิ่มประเทศที่ฟรีวีซ่า ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย ยูเออี ก็ถือว่าน่าสนใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน