กรมการข้าวเล็งของบกลาง 1,800 ล้าน ผุดโครงการแก้มลิง สร้างไซโลเก็บข้าวเปลือกรอจำหน่าย 100 แห่งทั่วภาคเหนือ-อีสาน ชะลอการจำหน่ายกว่า 1.7 ล้านตัน
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า เตรียมของบกลางวงเงิน 1,800 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการแก้มลิงเพื่อเก็บข้าวเปลือกไว้รอจำหน่ายจำนวน 100 แห่ง ในจังหวัดภาคอีสานและเหนือ เพื่อชะลอการจำหน่ายข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและแก้ปัญหาเกษตรกรไม่มียุ้งฉาง คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเก็บข้าวได้ในฤดูการเพาะปลูกปี 2567/68 โครงการแก้มลิงข้าวดังกล่าวจะกระจายอยู่ตามพื้นที่ที่ผลิตข้าวคุณภาพสูง คือ ข้าวหอมมะลิ 105 และ กข.6
สำหรับไซโลจะมีเครื่องอบลดความชื้น กำลังการผลิตจะเหมาะสมกับผลผลิตแต่ละพื้นที่ แต่ต้องเก็บข้าวได้อย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวบรวมข้าวของเกษตรกรที่ต้องการเข้าร่วมโครงการรับจำนำยุ้งฉางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเบื้องต้นได้หารือกับทางธนาคารไว้แล้ว คาดว่าโครงการนี้จะดึงข้าวออกจากตลาดในช่วงเก็บเกี่ยวได้ อย่างน้อย 30% หรือประมาณ 1.7 ล้านตันข้าวเปลือก
นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 พิษณุโลก (สศท.2) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า สถานการณ์การตลาดข้าวไทย ปี 2566 ราคาข้าวเปลือกเจ้า ณ ความชื้น 15% ณ วันที่ 15 ต.ค. 2566 อยู่ระหว่าง 10,870-12,200 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ราคา อยู่ที่ 8,200-9,200 บาท/ตัน ตามกลไกตลาดทั้งในและ ต่างประเทศ ทั้งปริมาณสต๊อกข้าวในประเทศที่ลดลง ความต้องการ เพิ่มทั้งในและต่างประเทศ
สต๊อกข้าวและกลุ่มธัญพืชโลกที่ยังมีน้อยและปัจจัยต่างๆ อาทิ สภาพภูมิอากาศแปรปรวน โรคระบาดในพืชต่างๆ คลื่นความร้อนในแหล่งผลิตข้าว เช่นเดียวกับราคาข้าวเหนียวอยู่ระหว่าง 10,600-11,950 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ที่ราคา 8,200-9,200 บาท/ตัน ข้าวหอมจังหวัดอยู่ระหว่าง 12,000-13,100 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจาก ปีที่ผ่านมาที่ราคา 10,000-11,000 บาท/ตัน
ราคาที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ทำธุรกิจแบบครบวงจร ทั้งโรงสีและบริษัท ส่งออกข้าวมีความต้องการบริโภคจากภาคครัวเรือน ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยวที่จะปรับตัวดีขึ้นภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย