รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. ที่มีนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานในวันที่ 24 ต.ค.2566 กทพ.จะเสนอขอความเห็นชอบโครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร (ก.ม.) โดย กทพ.จะลงทุนเองทั้งหมดทั้งงานก่อสร้าง รวมทั้งงานดำเนินงาน และบำรุงรักษา (โอแอนด์เอ็ม) วงเงินรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่วนวงเงินลงทุนค่าก่อสร้างนั้นมีวงเงินประมาณ 9,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการประชุมบอร์ด กทพ.ครั้งนี้ จะพิจารณาให้ กทพ.เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด โดยนำกำไรของ กทพ.ที่ในแต่ละปีมีประมาณ 6,000 ล้านบาท แบ่งนำมาใช้ดำเนินโครงการปีละ 2,000 ล้านบาท และจะเสนอกระทรวงการคลังลดการนำส่งเงินรายได้แผ่นดิน จากเดิม กทพ.นำส่งเงินรายได้แผ่นดินเข้ารัฐปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท เสนอขอลดนำส่ง 1,000 ล้านบาท หรือเหลือนำส่งปีละ 2,000 ล้านบาท เพื่อให้ กทพ.ใช้เงินดังกล่าวมาดำเนินโครงการโดยไม่ต้องใช้เงินกู้ และไม่ก่อให้เกิดเป็นหนี้สาธารณะด้วย
สำหรับสถานะในปัจจุบันของโครงการนั้นผ่านการรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว และถือเป็นโครงการ เร่งด่วน (Quick Win) ของรัฐบาล ที่ผลักดันและต้องเร่งดำเนินการ คาดว่า จะสามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้ในช่วงต้นปี 2567 จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการตั้งคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ประกวดราคา และได้เอกชนผู้ชนะการประมูล โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-5 เดือน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2567 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 2571
อย่างไรก็ตาม โครงการทางด่วนกะทู้-ป่าตองนั้น เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต อำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว รวมทั้งช่วยบรรเทาปัญหาการจราจร และลดอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4029 ของกรมทางหลวง (ทล.) และเชื่อมเดินทางไปยังหาดป่าตองอีกด้วย
