นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยกล่าวว่า ภาพรวมค้าปลีกและบริการในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเปราะบาง โดยในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยง ทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น และการแข่งขันที่สูงขึ้น รัฐบาลควรเร่งเครื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ต่อเนื่องและตรงจุด

ทั้งนี้ เห็นด้วยกับภาครัฐเกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งมาตรการลดค่าไฟและน้ำมัน มาตรการฟรีวีซ่าจีน และการเพิ่มเที่ยวบิน ถือว่าเป็นมาตรการที่มาถูกที่ถูกเวลา และช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีมีมาตรการกระตุ้น กำลังซื้อของภาครัฐ และการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายของ ผู้ประกอบการ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีได้ดีขึ้น

สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาของปีนี้ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า, แฟชั่น, สุขภาพ-ความงาม, ร้านวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งและ ซ่อมบำรุง, ร้านไอที เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต มีการชะลอตัวลง และร้านค้าส่ง ไฮเปอร์มาร์เก็ต ภัตตาคาร ร้านอาหาร ยังซบเซา โดยค้าปลีกที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึมลึก

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการค้าปลีกยังมีสถานะสภาพคล่องธุรกิจ และส่วนใหญ่ยังมีสภาพคล่องอยู่ได้ มากกว่า 12 เดือน แต่มีปัจจัยที่จะส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าของผู้ประกอบการ คือ ต้นทุนสูงขึ้น รักษากำไร และคู่แข่งปรับขึ้นราคา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน