ร้อนแรงสุดๆ ในตลาดรถยนต์เวลานี้ ต้องยกให้รถ SUV ไซซ์เล็ก จากค่ายพี่ใหญ่ โตโยต้า ยาริส ครอส ที่นอกจากจะได้รับการตอบรับเรื่องดีไซน์แล้ว ในวันเปิดราคา ยังเรียกเสียงครางฮือ จากนักเลงรถที่เฝ้ารอ นัยว่าสุดจัดในรุ่นกันเลยทีเดียว
กระแสดีอย่างนี้ มีหรือที่ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ จะพลาดนำมาทดสอบ เพื่อให้แฟนานุแฟนได้รับทราบข้อมูลโดยทั่วกัน ติดต่อเข้าไปยังพีอาร์สาว ‘แขไข’ สุชญา เชียรแกล้วกล้า ผู้จัดการฝ่ายบริหารการตลาด และประชาสัมพันธ์ โตโยต้า ประเทศไทย
ได้คำตอบว่าให้เข้าไปรับรถได้ในทันที ที่โตโยต้า อะไลฟ์ ถ.บางนา-ตราด ก.ม.3 โดยเตรียมตัวท็อป รุ่น HEV PREMIUM LUXURY เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดที่ 111 แรงม้า ไว้ให้ทดสอบ
สัมผัสแรกที่นั่งคนขับ วางตำแหน่งไว้ค่อนข้างสูง ช่วยทั้งเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ และไม่ทำให้ตัวจมลงไปในเบาะมากเกินไป เบาะนั่งนุ่มแน่น โอบกระชับ ช่วยลดความเมื่อยล้า เมื่อต้องขับขี่เวลานานๆ ได้เป็นอย่างดี
จังหวะออกตัว ค่อยๆ เติมคันเร่ง กำลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานได้อย่างราบเรียบ และเงียบสนิท แม้จะไม่จี๊ดจ๊าด แต่ก็ใช่ว่าจะอืดเป็นเรือเกลือ เหมาะกับการใช้งานในเมืองช่วงการจราจรหนาแน่น ที่เดี๋ยวเหยียบ เดี๋ยวถอนคันเร่งตลอดเวลา
ถึงจะเป็นช่วงสายๆ วันธรรมดา เพื่อนร่วมทางใช่ว่าจะน้อยกว่าปกติ โดยเฉพาะรถบรรทุก รถคอนเทนเนอร์ อาศัยว่ารูปร่างของเจ้า โตโยต้า ยาริส ครอส ค่อนข้างปราดเปรียว
และมีกำลังจากเครื่องยนต์เข้ามาเพิ่ม เมื่อกดคันเร่งเพื่อเร่งแซง ทำได้ทันใจ ช่วยให้ซอกแซก โยกซ้าย แซงขวา ได้อย่างสบายมือ
พวงมาลัยน้ำหนักเบา แต่มีความคมอยู่พอประมาณ คุณสาวๆ ที่ใช้ในเมืองน่าจะชอบใจ ไม่ต้องออกแรงมาก เวลาต้องการเปลี่ยนเลน
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกเพิ่มเติมอีก 2 โหมด ทำงานได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่ม DRIVE ที่ พวงมาลัย คือโหมดเพาเวอร์ เพื่อเรียกกำลังมาใช้เต็มพิกัด และโหมดอีโค เวลาที่ต้องการประหยัดพลังงาน เพิ่มเติมจากเวลากดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ทุกครั้ง จะเริ่มต้นที่โหมดนอร์มอล
หากใช้โหมดนอร์มอลอยู่ แล้วเปลี่ยน เป็นโหมดอีโค ตัวรถจะหน่วงขึ้นจนรู้สึกได้ เพราะระบบจะจัดการให้ประหยัดที่สุด รวมถึงปั่นไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเลือกใช้ตั้งแต่ก่อนออกตัว แค่โหมดนี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับใช้งานในเมือง
ใช้งานในเมืองเป็นหลัก เลือกใช้ครบทุกโหมด แต่หลักๆ เป็นโหมดอีโค วิ่งไประยะทางประมาณ 120 ก.ม. ดูอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23.3 ก.ม.ต่อลิตร ดีต่อใจอย่างมาก เมื่อเห็นตัวเลขขนาดนี้ และใกล้เคียงกับสเป๊กที่เคลมไว้ 26.3 ก.ม.ต่อลิตร
ขณะที่โหมดเพาเวอร์ ได้กำลังเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย ประมาณว่ายามต้องเรียกกำลังมาใช้งาน เพิ่มความกระชับ ฉับไว เช่น การเร่งแซง หรือทำความเร็วสูง
มีโอกาสได้เลือกใช้โหมดเพาเวอร์ เพราะแว้บออกนอกเมือง ไปเส้นมอเตอร์เวย์ ความเร็วปลายที่ทำไว้ได้ในรอบนี้อยู่ที่ปริ่ม 150 ก.ม.ต่อช.ม. แม้ช่วงล่างจะไม่มีอาการสั่นไหว แต่เสียงเครื่องยนต์ และล้อยางที่บดถนน แทรกเข้ามาในห้องโดยสารค่อนข้างชัด ช่วงความเร็วที่ขับแล้วค่อนข้างสบายอยู่ที่ 100-120 ก.ม.ต่อช.ม. ไปได้แบบเรื่อยๆ ชิลชิล ช่วงล่างนิ่งกริบ เครื่องยนต์ไม่เครียดจนเกินไป
ดีไซน์ของเจ้าโตโยต้า ยาริส ครอส ภายใต้แนวคิด Solic & Dynamic Design ตัวรถยกสูง กระจังหน้าขนาดใหญ่ แต่ดูเข้ากันกับขนาด ของตัวรถ หลังคาสีดำ ติดตั้งราวหลังคาสีเงิน เมทัลลิก หลังคาพาโนรามิก รูฟ พร้อมม่าน บังแดด
ไฟหน้าดีไซน์เฉี่ยว พร้อมไฟตัดหมอก แบบ Full LED ไฟท้าย LED สปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยปัดเงาสี ทูโทน ขนาด 18 นิ้ว สะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้นยามค่ำคืน ด้วยไฟต้อนรับเมื่อเข้าใกล้ตัวรถ
ภายในเบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ ฝั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มาตรวัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว มีที่ชาร์จไร้สาย ไฟสร้างบรรยากาศปรับได้ 14 เฉดสี
ที่วางแก้วน้ำคอนโซลกลาง ปรับได้เพื่อรองรับทั้งแก้วร้อนขนาดเล็ก และแก้วเย็นขนาดใหญ่ เบาะหลังมีช่องแอร์ และที่ชาร์จไฟแบบ Type-c 2 ช่อง เบาะนั่งปรับพับแยกแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
ระบบความปลอดภัยใส่มาเต็มพิกัด กับ โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ ติดตั้งกล้องมองรอบคัน และยังมีกล้องบันทึกการขับขี่ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง มาให้พร้อมไม่ต้องไปหาเพิ่มเติมให้วุ่นวาย
ราคาค่าตัวของเจ้า โตโยต้า ยาริส ครอส รุ่น HEV PREMIUM LUXURY อยู่ที่ 899,000 บาท ยังมีอีก 2 รุ่นไว้ให้เลือกใช้งาน รุ่น HEV PREMIUM ราคา 849,000 บาท และรุ่น HEV SMART ราคา 789,000 บาท
ชอบใจรุ่นไหน แวะไปทดลองขับกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูม โตโยต้า ทั่วประเทศ
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
