ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบวันหยุดส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่เป็นเวลา 4 วันรวด แต่ปรับเปลี่ยนแตกต่างจากปีก่อนๆ ที่ส่วนใหญ่เริ่มต้นวันที่ 30 ธ.ค.ไปจนถึงวันที่ 2 ม.ค.

โดยปีนี้เลื่อนจากวันอังคารที่ 2 ม.ค.2567 เป็นวันศุกร์ ที่ 29 ธ.ค.2566 ดังนั้น วันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่จึงเป็นวันที่ 29 ธ.ค.2566 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2567

นอกจากนี้ ครม.ยังกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษประจำปี 2567 เพิ่ม 1 วัน คือวันจันทร์ที่ 30 ธ.ค.2567 ส่งผลให้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เริ่มหยุดตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 ธ.ค.2567 ไปจนถึงวันพุธที่ 1 ม.ค.2568

เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีกทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนจะได้วางแผนล่วงหน้าอย่างเหมาะสมต่อไป

สําหรับวันหยุดปีใหม่ 2567 รัฐบาลยังกำหนดให้หน่วยงานใดที่มีภารกิจให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็น หรือราชการสำคัญในช่วงดังกล่าวที่กำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว

หากยกเลิกหรือเลื่อนจะเกิดความเสียหาย หรือกระทบ ต่อการให้บริการประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความ เสียหายแก่ทางราชการ และกระทบต่อการให้บริการประชาชน

ส่วนรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงแรงงานพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการ กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุด เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี

การกำหนดเช่นนี้นอกจากหน่วยงานรัฐจะได้เตรียมตัวแล้ว ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนจะได้วางแผนงาน และกำหนดการเดินทางได้แต่เนิ่นๆ








Advertisement

รัฐบาลระบุว่าสาเหตุที่ต้องเลื่อนวันหยุดจากวันอังคารที่ 2 ม.ค.2567 เป็นวันศุกร์ที่ 29 ธ.ค.2566 เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของการเดินทาง บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลปีใหม่

นอกจากการกำหนดวันหยุดไว้ล่วงหน้าแล้ว หวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆ ออกมาอีก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการระบายยวดยานพาหนะเข้าออกกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล ซึ่งจะมีเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน

เป็นที่ทราบกันดีในทุกวันหยุดยาว ไม่ว่าจะปีใหม่ และสงกรานต์นั้น เรื่องการจราจร อุบัติเหตุเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนงบประมาณของรัฐ

ดังนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ที่ขนคนได้คราวละมากๆ และรวดเร็ว ปัญหานี้จะวนเวียนซ้ำซากทุกปี ทำได้แต่เพียงการทุเลาบรรเทาความสูญเสีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน