เมื่อวันที่ 25 ต.ค. อัลจาซีรารายงานว่า ทางการอิสราเอลประกาศระงับการตรวจลงหนังสือเดินทางหรือวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น หลังไม่พอใจกรณีที่นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ระบุถึงการโจมตีของนักรบฮามาสต่ออิสราเอล เมื่อ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่าไม่ได้เกิดขึ้นโดยปราศจากสาเหตุ

ความเดือดดาลของอิสราเอลเกิดขึ้นหลังถ้อยแถลงของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์ถูกกดขี่จากการปิดล้อมและยึดครอง (โดยน้ำมือของอิสราเอล) มานานกว่า 56 ปี โดยชาวปาเลสไตน์ต้องทนดูแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนถูกกลืนกลายเป็นชุมชน (ชาวยิว) และเผชิญกับความรุนแรงจากการปราบปราม รวมถึงเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ กลายเป็นคนพลัดถิ่นบนแผ่นดินเกิดของตัวเอง และบ้านเรือนที่เคยอยู่อาศัยมาถูกทำลาย ท่ามกลางความหวังถึงทางออกทางการเมืองที่มืดมิด

สถานการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เตือนว่าทางหน่วยงานอาจต้องระงับภารกิจให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่าของอิสราเอลหลังขาดแคลนอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ร่อยหรอ ขณะที่เชื้อเพลิงสำรองของโรงพยาบาลในกาซ่านั้นกำลังหมดลงในคืนนี้

ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้นทะลุ 7,200 ราย บาดเจ็บกว่า 1 หมื่นคน และยังมีตัวประกันอยู่ในมือของกลุ่มฮามาสอีกอย่างน้อย 222 คน โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกทรงเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด

ด้านอิสราเอลยังคงเดินหน้าเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮามาสในกาซ่าอย่างต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 18 ขณะที่การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 ราย ถือเป็นสถิติผู้เสียชีวิตสูงสุดในวันเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน