ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับมหกรรมการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์ 2022” ที่นครหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน-8 ตุลาคมที่ผ่านมา

โดยทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญรางวัลรวมมาได้ 12 เหรียญทอง 14 เหรียญเงิน และ 32 เหรียญทองแดง รวมทั้งหมด 58 เหรียญ จบอันดับ 8 ของตารางเหรียญรางวัลรวม เป็น การคว้าเหรียญทองได้มากกว่าหนก่อนหน้านี้

ความสำเร็จดังกล่าวนอกจากการสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว ภาคเอกชนก็มีส่วนหนุนนำผลักดันสมาคมกีฬาต่างๆ

หนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยหนนี้ต้องยกให้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด หรือ “สิงห์” ซึ่งเข้าไปมีส่วนในการสนับสนุนสมาคมกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬายิงธนูแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาวินด์เซิร์ฟแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย รวมไปถึง สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย

เอเชียนเกมส์ครั้งนี้หลายสมาคมที่ “สิงห์” ให้การสนับสนุน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ได้มาถึง 9 เหรียญทอง หรือกว่า 75% ของ 12 เหรียญที่นักกีฬาไทยทำได้ทั้งหมดในเอเชียนเกมส์ เลยทีเดียว

เป็นผลงานของ สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย คว้า 4 เหรียญทอง, สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย คว้า 2 เหรียญทอง

สมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย คว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง, สมาคมกีฬาวินด์เซิร์ฟแห่งประเทศไทย คว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน, สมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย คว้า 1 เหรียญเงิน 3 ทองแดง สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย คว้า 1 เหรียญทองแดง

และสมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย คว้า มาได้ 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง

“บิ๊กรัง” นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นอกจากจะเป็นผู้บริหารบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ แล้ว หมวกอีกใบคือการเป็นนายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ซึ่งใน เอเชียนเกมส์หนนี้ นักกอล์ฟไทยระเบิดฟอร์มเก่งคว้ามาได้ถึง 2 เหรียญทอง จากประเภทบุคคลหญิง“โปรเปียโน” อาภิชญา ยุบล และทีมหญิง กับ 1 เหรียญทองแดง จากทีมชาย

“นักกีฬากอล์ฟทีมชาติไทยชุดนี้ทั้งชายและหญิง สมาคมเฟ้นเลือกทีละคนอย่างละเอียดเพื่อให้ได้นักกีฬาที่ฟอร์มดีที่สุด มีความสามารถ มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะออกไปแข่งขันในนามประเทศไทย ก่อนไปเรารู้อยู่แล้วว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมาก แต่ละชาติต่างส่งมือดีๆ มาแข่งขัน ประเภทบุคคลหญิง ก่อนวันสุดท้าย อาภิชญา ยุบล สะวิงสาวจากสระบุรี วัย 21 ปี ตามหลังผู้นำถึง 7 สโตรก แต่เธอก็สู้จนพลิกกลับมาคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ และได้อีกหนึ่งเหรียญทองในประเภททีมหญิง ส่วนทีมชายก็ไม่เบา คว้ามาได้ 1 เหรียญเงิน ถือเป็นความสำเร็จของนักกีฬาและโค้ช ต้องชื่นชม” บิ๊กรังกล่าว

นายรังสฤษดิ์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ กล่าวต่อไปว่า แนวทางในการสร้างนักกอล์ฟของสมาคม คือการสร้างแมตช์การแข่งขันที่มีมาตรฐานกระจายครอบคลุมทุกภูมิภาค เพื่อให้นักกอล์ฟตั้งแต่ระดับเยาวชนได้มีโอกาสพัฒนาตนเอง ซึ่งถือเป็นการเติมนักกอล์ฟรุ่นใหม่ทั้งชายหญิง ขึ้นมา รับใช้ชาติในฐานะนักกีฬาทีมชาติ และเป็นการวางรากฐานที่ดีสู่การเติบโต ในระดับอาชีพต่อในอนาคต สำหรับเอเชียนเกมส์ถ้าดูจากอันดับ นักกอล์ฟไทยอาจเป็นรองจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, อินเดีย แต่เมื่อใจสู้และเชื่อในการวางแผน ของโค้ชทุกอย่างในสนามกอล์ฟอะไรก็เกิดขึ้นได้ ความสำเร็จในการได้ 2 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงิน มาจากความขยัน ความตั้งใจ ไม่ยอมแพ้ เชื่อว่าผลงานความสำเร็จในเอเชียนเกมส์และซีเกมส์ จะเป็นแรงผลักดัน เป็นต้นแบบให้กับ นักกอล์ฟรุ่นใหม่อีกเป็นจำนวนมากได้เดินตาม

ด้าน “เปียโน” อาภิชญา ยุบล เจ้าของ 2 เหรียญทองเอเชียนเกมส์ ทั้งบุคคลและทีมหญิง กล่าวว่า ตนเตรียมความพร้อมสำหรับเอเชียนเกมส์มาอย่างดี เพราะมีแมตช์แอลพีจีเอ ซึ่งในเอเชียนเกมส์ก็มีชื่อของนักกีฬาระดับโลก แต่ปัจจัยที่ทำให้ได้รับชัยชนะคือการได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีและสนุกกับการเล่น โค้ชวางจุดซ้อมตำแหน่งบนกรีนถึง 6 จุด เพื่อให้นักกีฬามีความมั่นใจในการแข่งวันจริง และได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมในการแข่งขันถึงแผนการเล่น จากนี้จะเดินทางไปแข่ง แอลพีจีเอที่ญี่ปุ่น ต่อด้วยสหรัฐ พร้อมเชิญชวนนักกอล์ฟเยาวชนลงแข่งกันเยอะๆ เพื่อสั่งสมประสบการณ์ ส่วนตัวแล้วเติบโต มาจากสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย ที่จัดแมตช์เก็บคะแนนเกือบจะทุกสนามเลยเพื่อที่จะได้เล่นแมตช์ไทยแลนด์ จูเนียร์เวิลด์ ที่หัวหิน ทำให้ได้ประสบการณ์

ส่วนสมาคมกีฬาอื่นๆ อย่าง เทควันโด เป็นอีกหนึ่งสมาคมกีฬาที่ผลิต เหรียญทองได้สม่ำเสมอ และสิงห์ ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องยาวนาน หนนี้ได้มา 2 เหรียญทอง จาก “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในรุ่น 49 ก.ก. หญิง ป้องกันแชมป์เอเชียนเกมส์ และ “หยู”บัลลังก์ ทับทิมทอง ในพิกัด 63 ก.ก.

ยกน้ำหนัก หลังจากเจอมรสุมมากมายถาโถม แต่ “สิงห์” ไม่เคยปล่อยมือให้เดินเดียวดาย จนวันนี้ จอมพลังไทยกลับมาเฉิดฉายในเอเชียนเกมส์ และสร้างดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่าง วีรพล วิชุมา ที่สามารถคว้าเหรียญเงินอย่างพลิกความคาดหมาย

หรือจะเป็นการร่วมทางกับสมาคมมวยฯ ที่เอเชียนเกมส์ ครั้งนี้ ถึงจะไม่มีเหรียญทอง แต่สามารถตีตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ได้ถึง 4 ที่นั่ง ประกอบด้วย ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด ในรุ่น 51 ก.ก. ชาย, จุฑามาศ รักสัตย์ ในรุ่น 50 ก.ก. หญิง, จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรุ่น 66 ก.ก. หญิง และ ธนัญญา สมนึก ในรุ่น 60 ก.ก.หญิง

ส่วนตะกร้อ ยังรักษามาตรฐานกวาด 4 เหรียญทอง จากทีมเดี่ยวชาย, ทีมเดี่ยวหญิง, ทีมชุดชาย, ทีมชุดหญิง ครองความยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน ในเอเชียนเกมส์ ต่อเนื่องชนิดไร้คู่ต่อกร

ทั้งหมดคือความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยที่สร้างความสุขให้กับ แฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ โดยมี “สิงห์” ผู้สนับสนุนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน