นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะเป็นพรรคฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อให้มีการแก้ไขมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น พรรคแสดงเจตจำนงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ที่ผ่านมามีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประชาชน ที่สำคัญกว่านั้นคือมีหนึ่งฉบับที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง จนเป็นที่มาที่ทำให้การเลือกตั้งในปี 66 เป็นการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เรื่องนี้จึงถือได้ว่าเป็นเจตนารมณ์อย่างชัดเจนของพรรคที่มีความมุ่งมั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
แม้รัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกำหนดกรอบการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคยังไม่ได้มีมติมอบหมายใครคนใดคนหนึ่งเพื่อไปเข้าร่วมในคณะกรรมการชุดดังกล่าว แต่ยืนยันว่าพรรคพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือการแก้ไขครั้งนี้ต้องไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2
ส่วนพรรคก้าวไกลที่ถือเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงญัตติที่เสนอต่อสภา ในรายละเอียดยอมรับว่าเนื้อหาที่จะนำไปสู่การตั้งคำถามในการทำประชามติเป็นการกำหนดไว้กว้างเกินไป จนมีประเด็นที่ทำให้สังคมเกิดความสงสัยเช่นกัน ประเด็นการแตะหมวด 1 หมวด 2 หากเรื่องดังกล่าวไม่ชัดเจนก็ยากจะผ่านกระบวนการต่างๆ ทั้งในขั้นตอนของสภาผู้แทนฯ และฝ่ายบริหาร การจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ความจำเป็นต้องแสวงหาแนวร่วม แสวงหาจุดยืนร่วมกัน หากทุกฝ่ายยังยึดถือประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้งก็ยากจะทำให้แก้ไขรัฐธรรมนูญประสบผลสำเร็จ
ยืนยันอีกครั้งในการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกลร่วมทำงานในสภาได้ แต่เรื่องใดที่มีอุดมการณ์แตกต่างกันเราจะไม่ไปร่วม โดยเฉพาะหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนหมวด 1 และหมวด 2 ก็คงต้องเดินกันคนละทาง พรรคได้ติดตามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการที่นายกฯตั้งขึ้น จะเพื่อยื้อเวลาหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้เพราะทุกการ กระทำของรัฐบาลจะเป็นคำตอบในวันข้างหน้า
