การดำเนินชีวิตของมนุษย์แต่ละคน มีความคิด มีการกระทำ มีคำพูดที่แตกต่างกันออกไป เราจึงต้องใช้หลักในการพิจารณาแนวทางในการดำเนินชีวิตไปสู่ครรลองที่ถูกต้อง
พล.ต.วันชนะ สวัสดี (ผู้พันเบิร์ด) ผู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต และมีแนวทางในการดำเนินชีวิตด้วยทางสายกลาง ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ธรรมะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ในหัวข้อ “ธรรมะทำไม ทำไมธรรมะ” บนเวที เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ โดยพุทธปัญญาชมรม บมจ.ซีพี ออลล์
พล.ต.วันชนะเกริ่นว่า “ผมใช้ทางสายกลางเป็นวิถีการดำเนินชีวิตมาโดยเสมอ เมื่อทางสายกลางเกิดขึ้นแล้ว มันจะทำให้เรามีความหนักแน่นทางอารมณ์ หมายถึงเราไม่ได้พลิ้วไหวไปตามกระแสของสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูลข่าวสาร ในท้ายที่สุดเราสามารถใช้เรื่องนี้มาทำให้เรามีความหนักแน่นทางอารมณ์ได้อย่างจริงจัง เมื่อเกิดความหนักแน่นทางอารมณ์แล้วนั้น ก็จะตามไปถึงจิตอาสาครับ”
พล.ต.วันชนะเล่าถึงชีวิตที่ผ่านมาว่า “ในชีวิตผม ผมเป็นลูกทหาร คุณพ่อผมเป็นทหารผ่านศึกไปรบที่เวียดนามและกลับมารับราชการ คุณพ่อเป็นบุคลากรรุ่นแรกของกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี เริ่มก่อตั้งค่ายสุรสีห์ในขณะนั้น คุณพ่อเป็นคนที่ดุมาก ก็ได้เรียนรู้จากพ่อว่า การดุมากไปแม่ก็ลำบาก ดุจนขนาดในบ้านต้องมานั่งผลัดกันปรับทุกข์ระหว่างแม่กับลูก คุณพ่อเป็นคนที่ตรงแต่ก็ตรงเกินไป จนทำให้วันนี้ตัวเราเองก็กลายเป็นคนยืดหยุ่น และยอมรับบางอย่างได้แต่ก็มีขีดจำกัดว่าแบบนี้ก็จะเกินไป ทำให้เรามีคติประจำใจคือ ความรู้นั้นสำคัญ แต่อุปนิสัยที่ดีนั้นสำคัญกว่า”
ทางสายกลางนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เรามีความหนักแน่นมั่นคงในการคิด ในการปฏิบัติ จะทำให้เราไม่ทำร้ายตัวเราเอง ในขณะเดียวกันจะทำให้เราไม่ทำร้ายตัวเอง และเราก็จะไม่ทำร้ายคนอื่น และจะส่งผลอีกเรื่องก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความสุขหรือความทุกข์ในชีวิต ในขณะเดียวกันถ้าเราไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาความทุกข์ในชีวิตเราได้ สิ่งสำคัญคือเราจะกลับไปที่บ้าน ไปหาคนที่เรารักและเขาก็รักเราที่บ้าน และเราจะช่วยกันแก้ไขปัญหา ผมคิดว่าหลักธรรมข้อนี้จะทำให้ลดปัญหาในสังคมได้มาก เช่น การฆ่าตัวตาย การทำร้ายตัวเอง หรือการไปทำร้ายผู้อื่น นอกเหนือจากนั้นในเรื่องของข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันก็จะมีเรื่องมากมายที่ทำให้เราคิดถูกคิดผิด หรือไปบูลลี่คนอื่น แต่การดำเนินทางสายกลางนี้จะทำให้เรารู้สึกได้ว่าข่าวสารใดที่เราเสพอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ หรือผิดอย่างไร แต่หลักที่สำคัญก็คือเราจะไม่ทำร้ายกัน
Advertisement
ตอนมีความสุขในชีวิตมากๆ หรือมีความทุกข์ในชีวิตมากๆ เราจะมีความสุขหรือความทุกข์เหล่านั้นได้ไม่นาน เราจะกลับมาสู่ทางสายกลาง นั่นก็คือดำเนินชีวิตแบบปกติ ไม่ดีใจจนเกินไป หรือไม่เสียใจจนเกินไป หรือความดีใจ ความเสียใจนั้น มันก็จะอยู่กับเราไม่นาน เราจะกลับมาสู่การดำเนินชีวิตแบบทางสายกลาง และสิ่งที่สำคัญก็คือธรรมะก็คือความเป็นธรรมดา คือความเป็นธรรมชาติ
ผู้พันเบิร์ดสรุปให้ฟังว่า เมื่อเราได้เรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับความเป็นไปในความเป็นจริงทางธรรมชาติ เราจะอยู่ในรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบทางสายกลางจริงๆ รวมถึงเมื่อเราดำเนินชีวิตในการบริหารจัดการแบบทางสายกลางสำหรับตัวเองได้แล้วเราจะมีโอกาสในการที่จะออกไปช่วยเหลือคนอื่น ในลักษณะของจิตอาสาด้วย ถ้าเกิดเราบริหารจัดการได้ในครอบครัว เช่น ผลัดกันไปรับระหว่างคุณพ่อคุณแม่ เราก็จะสามารถบริหารจัดการชีวิตได้ เราจึงสามารถที่จะออกไปช่วยเหลือคนอื่นได้ เมื่อเราไปช่วยเหลือคนอื่นแล้วเขาจะรู้สึกดีใจที่จะได้รับการช่วยเหลือ เขาก็จะมีกำลังใจในการที่จะช่วยเหลือคนอื่นต่อไป
พบกับกิจกรรมเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น. ผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL หรือสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน พร้อมรับฟังคติธรรมดีๆ ในช่องทาง TikTok ได้ที่ ธรรมะ TikTok
