ประสบความสำเร็จตามเจตนารมณ์ สำหรับโพลมติชนxเดลินิวส์ ภายใต้หัวข้อ “รัฐบาลเศรษฐา ควรแก้ปัญหาอะไร”

ไม่ใช่เพราะจำนวนคนโหวตกว่า 4 หมื่น แต่เป็นเพราะเสียงประชาชน ถูกส่งต่อไปยังหัวหน้ารัฐบาลแล้ว หลังปิดโหวตเมื่อ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปช่วงก่อนเปิดโหวต 1 ต.ค. นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสองสื่อใหญ่เครือมติชนและเดลินิวส์ ในการจัดทำโพลครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องที่ดี

เป็นผลสะท้อนความต้องการของประชาชนอยากให้รัฐบาลทำอะไรบ้าง เพื่อนำไปประกอบเป็นข้อมูลอย่างหนึ่งในการพิจารณาตัดสินใจ และเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรทำได้ หรือไม่ได้อย่างไร

ข้อยืนยันผลโพลสองสื่อถูกส่งต่อไปยัง “รัฐบาลเศรษฐา” แล้วนั้น คือคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯ เศรษฐา วันเสาร์ที่ผ่านมา

“ข้อเสนอเรื่องลดค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงค่าน้ำมัน รัฐบาลได้ดำเนินการจัดการแล้ว เราทำอยู่ และจะทำอีก แต่เรื่องใหญ่กว่านั้นคือ ปัญหาหนี้สิน โดยได้ประชุมเรื่องนี้เบื้องต้นไปแล้วกับฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการคลังและฝ่ายปกครอง โดยจะมีมาตรการเรื่องนี้ออกมาเร็วๆ นี้”

ทั้งนี้ “ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน” เป็นหัวข้อย่อยในหัวข้อหลักเรื่องเศรษฐกิจ-ปากท้อง ได้รับการโหวตสัดส่วนร้อยละ 25.4

ส่วนเรื่อง “ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ” รองลงมา ร้อยละ 20.6 ตามด้วยอันดับ 3 แก้ปัญหาการเกษตร ร้อยละ 16.9

นายกฯ เศรษฐายังกล่าวถึง “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” (อันดับ 4 ร้อยละ 15.6) จะเป็นอีกมาตรการหนึ่ง รวมถึงผลักดันให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพื่อสร้างงานและห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ธุรกิจในประเทศเบ่งบานขึ้นได้

ส่วนข้อเสนอ “แก้รัฐธรรมนูญ” ที่ครองอันดับ 1 ร้อยละ 21.4 ในหัวข้อหลักปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคมนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นายกฯ ประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการจัดทำ ประชามติฯ เขียนไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ชัดเจนแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ผลโหวตรวมจะชี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 60 ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้เศรษฐกิจ-ปากท้อง มากกว่าการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม แต่ นายกฯ เศรษฐาบอกว่า บางเรื่องที่คน พูดน้อย ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ

“ขอย้ำว่าต้องทำไปพร้อมกันทุกอย่าง” นายกฯ เศรษฐากล่าวในที่สุด

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน