เมื่อวันที่ 8 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติเศรษฐกิจใหญ่ 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แถลงเรียกร้องให้การสู้รบที่ฉนวนกาซ่าพักลงก่อนชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม หลังยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งสองฝ่ายทะลุ 11,700 ราย ในจำนวนนี้ เป็นเด็กกว่า 4 พันราย

แหล่งข่าวระดับสูงจากการประชุมข้างต้น ระบุว่า บรรดารมว.ต่างประเทศของชาติสมาชิกทั้งหมดมีความเห็นตรงกันอย่างมากในเรื่องการขยายขอบเขตความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ รวมถึงการหารือกับบรรดาชาติในภูมิภาคตะวันออกกลางถึงอนาคตของกาซ่าเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน

ด้านสถานการณ์ภายในกาซ่า กองทัพอิสราเอลบุกเข้าสู่ในกลางของเมืองกาซ่าซิตีแล้วโดยการสู้รบยังดำเนินไปอย่างดุเดือด ขณะที่คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือไอซีอาร์ซี เปิดเผยว่า ขบวนรถที่ขนเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ ประกอบด้วย รถบรรทุก 5 คัน และรถเก๋งอีก 2 คัน ตกเป็นเป้าโจมตี แต่ไอซีอาร์ซีไม่ได้ระบุว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทางการสหรัฐอเมริกาแสดงความไม่เห็นด้วยกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ระบุว่า อิสราเอลจะดำเนินมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยในกาซ่าต่อไปหลังสงครามจบลงแต่จะยอมตกลงให้มีการ “พักรบ” เกิดขึ้นเพื่อเปิดทางให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันกว่า 240 คน และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพลเรือนได้

วันเดียวกัน กลุ่มจี 7 ยังมีมติเห็นพ้องถึงการให้ความสนับสนุนทางการยูเครนที่ต้องต่อสู้กับการรุกรานของกองทัพรัสเซีย โดยระบุว่า ทางกลุ่มจี 7 มีความเป็นเอกภาพที่จะให้การสนับสนุนยูเครนต่อไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอีกครั้งด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน