เหตุการณ์ข่มขู่ผู้นำประเทศมีให้เห็นเป็นข่าวมาเป็นระยะ ในต่างประเทศคดีเช่นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ แม้ในประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิการแสดงออกของพลเมืองอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา ก็ยังดำเนินการอย่างจริงจังกับเรื่องดังกล่าว
เช่นกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) บุกตรวจค้นจับกุมบ้านนายเคร็ก เดลีว โรเบิร์ตสัน วัย 75 ปี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของซอลต์เลกซิตี เมืองหลวงของรัฐยูทาห์ หลังเจ้าตัวโพสต์ข้อความข่มขู่จะทำร้ายประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เตรียมเดินทางเยือนรัฐดังกล่าว ก่อนบานปลายกลายเป็นการวิสามัญฆาตกรรม
รวมถึงเหตุการณ์ช็อกโลก ลอบสังหารนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยคนร้ายที่ไม่พบว่ามีประวัติใช้ความรุนแรง อ้างเหตุเพราะเชื่อเอาเองว่านายอาเบะไปเกี่ยวข้องกับองค์กรด้านศาสนา ทำให้ครอบครัวล้มละลายเพราะทุ่มเทบริจาคเงิน
เหตุการณ์ที่หนุ่มวัย 29 โพสต์ข้อความในลักษณะข่มขู่เอาชีวิตนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แม้เมื่อสอบสวนแล้วคงแค่การระบายอารมณ์ แต่ก็เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจไม่น้อย

กฤษฎา ปานบ้านแพ้ว หรือแบงค์ ถูกจับคบบ้าน

จับคาบ้านหนุ่มโพสต์ขู่ฆ่านายกฯ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ตำรวจ บช.สอท. นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รองผบก.สอท.1 และพ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ สอท.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมนายกฤษฎา ปานบ้านแพ้ว หรือแบงค์ อายุ 29 ปี ที่บ้านในซอยสวนหลวง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. หลังสืบทราบว่าเป็นเจ้าของบัญชีเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ที่โพสต์ข้อความข่มขู่เอาชีวิตนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจโดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพแต่โดยดี
นายกฤษฎากล่าวว่า ขอโทษที่กล่าวล่วงเกิน ยินดีไปสถานีตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อสิ่งที่ทำ เพราะคำพูดเป็นนายตัวเอง ยอมรับว่าการโพสต์ทั้ง 2 ข้อความมาจากการดูและติดตามข่าว ผิดหวังกับพรรคการเมืองที่เชียร์ เพราะหลังเลือกตั้งกับก่อนเลือกตั้งหนังคนละม้วน บวกกับเวลาโพสต์ได้ดูข่าวสาร แล้วรู้สึกว่าการที่ออกมาพูดมันไม่เหมือนสิ่งที่สัญญาไว้ในทุกๆ เรื่อง บวกกับการกระทำต่างๆ ของพรรค เลยรู้สึกโมโหทุกครั้งกับการกระทำ
“หลังโพสต์ไปแล้ว ผมก็ถูกขุดภาพประวัติส่วนตัว ถูกข่มขู่กลับด้วย และออกมาโพสต์ขอโทษยุติทุกอย่าง ขอโทษในสิ่งที่โพสต์ด่า และแสดงเจตนาที่ไม่เหมาะสมออกไป ด้วยอารมณ์และความไม่ยั้งคิดยั้งทำ ทำให้ขาดสติ จนทำให้เกิดความไม่พอใจ ผมจะปรับปรุงการกระทำ คิดให้เยอะขึ้น และจะขอยุติเป็นแค่ผู้อ่านข่าวอย่างเดียว โดยไม่แสดงความคิดเห็นอะไร” นายกฤษฎากล่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน ยังพร้อมรับฟังความเห็นต่าง

ขณะที่นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ทราบข่าวแล้วให้ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย เราเป็นรัฐบาลก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีคนไม่พอใจ ไม่สบายใจ หรือมีคนแนะนำมา เราก็ต้องฟัง แต่ขอให้ติชมอย่างสร้างสรรค์มากกว่าคุกคาม ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยไม่สั่งการอะไร เพราะเชื่อว่าทีมรักษาความปลอดภัยทำงานได้ดีอยู่แล้ว หากเพิ่ม เขาก็จะเพิ่มกันเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลของนายกฯ ยังคงเป็นไปตามปกติของระบบรักษาความปลอดภัย โดยมีรถตำรวจนำขบวน 1 คัน ต่อด้วยรถนายกฯ และรถทีมรักษาความปลอดภัยอีก 2 คัน ซึ่งเป็นไปตามปกติทุกวัน

โพสข่มขู่

พลิกแฟ้มคดีลอบสังหารผู้นำไทย

หากย้อนดูอดีต 91 ปีที่ผ่านมา เหตุลอบสังหารนายกรัฐมนตรีในเมืองไทยเคยมีมาแล้วหลายครั้ง จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของไทยถูกบันทึกว่าเป็นนายกฯ คนแรกที่ถูกก่อเหตุลอบสังหาร ถูกคนร้ายลงมือถึง 3 ครั้งซ้อน แต่ก็รอดตายมาได้ทุกครั้งจนกำเนิดฉายา ‘จอมพลกระดูกเหล็ก’
ครั้งที่ 1 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2477 ขณะเป็นประธานมอบรางวัลชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลระหว่างเหล่าทัพต่างๆ ที่ท้องสนามหลวง ถูกคนร้ายบุกประชิดตัวใช้ปืนพกสั้นยิงในระยะเผาขน แต่เคราะห์ดีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนร้ายถูกจับได้และซัดทอดถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นผู้ว่าจ้างให้มาสังหาร
ถัดมาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2481 ถูกคนรับใช้ในบ้านใช้อาวุธปืนพกยิง แต่กระสุนพลาด ขณะที่คนร้ายไม่ยอมซัดทอดว่าใครเป็นผู้จ้างวาน ครั้งที่ 3 วันที่ 9 ธันวาคม 2481 จอมพล ป. ถูกแม่ครัวในบ้านลอบใส่ยาพิษในอาหารกลางวัน แต่เมื่อรู้ตัวว่าถูกยาพิษ ได้รีบไปล้างท้องที่โรงพยาบาลทหารบกได้ทัน ส่วนคนร้ายนั้นไม่ซัดทอดผู้จ้างวาน
รอดตายมาได้ถึง 3 ครั้ง แม้กระทั่งในเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494 ที่ถูกจี้จับตัวในเรือรบหลวงศรีอยุธยา ถูกทิ้งระเบิดผ่านเตียงที่เคยนอนชนิดเฉียดฉิว ก็หาทำอะไร ‘จอมพลกระดูกเหล็ก’ คนนี้ได้
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ก็ถูกบันทึกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารบกคู่บุญ ที่ถูกก่อเหตุลอบสังหารหลายต่อหลายครั้ง มีการกล่าวหาว่าผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารทั้งหมดคือ ‘กลุ่มยังเติร์ก’ หรือ นายทหาร จปร.7 ภายใต้การนำของ พ.อ.มนูญ รูปขจร พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร และ พ.อ.พัลลภ ปิ่นมณี (ยศในขณะนั้น) เนื่องด้วยกลุ่มยังเติร์กล้มเหลวในความพยายามทำรัฐประหารระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2524 หรือเหตุการณ์ ‘กบฏเมษาฮาวาย’

 

EODเก็บกู้คาร์บอมบ์

ความพยายามลอบสังหาร’ทักษิณ’

วันที่ 3 มีนาคม 2544 เพียง 1 เดือนหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ก็เกิดเหตุระเบิดเครื่องบินการบินไทย โบอิ้ง 737-400 ซึ่งเป็นพาหนะที่เจ้าตัวกำลังจะใช้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เครื่องบินถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น นายทักษิณเชื่อว่า สาเหตุของเครื่องบินระเบิดน่าจะมาจากวัตถุระเบิดที่มีผู้นำมาติดไว้ที่ใต้ท้องเครื่องบิน บริเวณที่นั่งวีไอพี
รายงานการสอบสวนกรณีนี้ คณะสืบสวนสรุปสาเหตุไม่ตรงกัน กรรมการชุด พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร. ขณะนั้น ฟันธงเป็นการ “วางระเบิด” เนื่องจากตรวจพบสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่เป็นส่วนประกอบของซีโฟร์กระจายอยู่
ขณะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากรณีเครื่องการบินไทยระเบิด ที่สภาผู้แทนราษฎรตั้งควบคู่กัน โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.อ่างทอง ประธาน กมธ. สรุปมีแนวโน้มว่าจะเป็นอุบัติเหตุ
ส่วนผลสรุปการสอบสวนของ “คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(NTSB)” ซึ่งเป็นองค์กรการบินระดับโลก ระบุสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเปิดแอร์ระหว่างเติมน้ำมัน คาดว่าสาเหตุมาจากอุปกรณ์ทำความเย็นทำงานต่อเนื่องอย่างหนักได้ปล่อยความร้อนออกมา เป็นเหตุให้ถังเชื้อเพลิงที่อยู่เหนือขึ้นไปเกิดระเบิด
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นายทักษิณ เคยให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นการลอบสังหาร และมีสจ๊วร์ดเสียชีวิตหนึ่งคนด้วย เนื่องจากมีซองเอกสารที่มีทริกเกอร์ระเบิดวางที่เก้าอี้ที่นั่งของนายกรัฐมนตรี สจ๊วร์ดไม่รู้ ไปหยิบมาจึงเสียชีวิต

ทักษิณ ชินวัตร ระบุเคยถูกลอบสังหาร 4 ครั้ง

รอดคาร์บอมบ์แต่โดนปฏิวัติ

เช้าวันที่ 24 สิงหาคม 2549 หน่วยรักษาความปลอดภัย นายทักษิณ สกัดจับรถเก๋งยี่ห้อแดวู สีเงิน ทะเบียน ฐฉ-3085 กทม. พร้อมควบคุมตัว ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ อายุ 43 ปี สังกัดประจำกองบัญชาการกองทัพบก ช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือกอ.รมน. สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด อดีตคนขับรถของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผอ.กอ.รมน. ขณะนั้น ขณะจอดอยู่บริเวณข้างสะพานข้ามแยกบางพลัด
ตรวจสอบบริเวณที่นั่งเบาะหลังและกระโปรงท้าย พบวัตถุระเบิดซีโฟร์ น้ำหนัก 3.5 ปอนด์ ทีเอ็นที รวม 10.75 กิโลกรัม เชื้อปะทุไฟฟ้า จำนวน 2 ดอก วงจรรีโมตคอนโทรล 1 ชุด สายฝักแคระเบิด ยาวประมาณ 12.22 เมตร เชื้อปะทุชนวน 4 ดอก แอมโมเนียม ไนเตรต ฟูเอล ออยล์ หนัก 17.33 กิโลกรัม กระสอบทราย 4 กระสอบ มีถังแกลลอนน้ำมันเครื่องสีเขียวและสีดำขนาด 5 ลิตรบรรจุน้ำมันเบนซินผสมปุ๋ยยูเรียจำนวน 7 แกลลอน และที่วางเท้าอีก 6 แกลลอน รวมทั้งยังพบแผงวงจรที่เบรกมือโดยสามารถจุดระเบิดด้วยรีโมตคอลโทรล หรือด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือนาฬิกาดิจิทัลซึ่งสามารถสั่งการได้จากภายนอกรถ
ร.ท.ธวัชชัยปฏิเสธ โดยอ้างรถคันดังกล่าวมีเพื่อนว่าจ้างในราคา 200 บาท เพื่อให้มาขับรถคันดังกล่าวจากตรงจุดที่ถูกจับกุม แต่ตำรวจตรวจสอบพบว่า ร.ท.ธวัชชัยขับรถคันนี้แล่นออกจากกอ.รมน.เมื่อตอนเช้ามืดวันเดียวกัน จากนั้นเขาก็ถูกสอบเครียดจนสุดท้าย ก็ยอมรับว่า เป็นคนขับรถมาจอดไว้เอง
เหตุการณ์ครั้งนั้นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่อง “ลวงโลก” มองว่าเป็นเหตุการณ์ “คาร์บ๊อง” แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ EOD ตรวจสอบอย่างละเอียดก็ยืนยันได้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เพราะวัตุระเบิดทั้งหมดถูกเชื่อมต่อวงจรเอาไว้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะระเบิด อีกทั้งเมื่อดูจากอาคารพาณิชย์ตรงจุดที่จอดรถและกระสอบทรายที่นำมาวาง หากเกิดระเบิดขึ้นมาจะเป็นการช่วยเสริมแรงระเบิดให้พุ่งเข้าใส่สะพานข้ามแยกซึ่งเป็นเส้นทางที่ทักษิณใช้เดินทางเป็นประจำ
EOD ที่ระบุระเบิดที่พบมีอานุภาพความรุนแรงในรัศมีไกลถึง 1 กิโลเมตร
ทว่าต่อมาอีก 3 สัปดาห์ วันที่ 19 กันยายน 2549 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มี พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้า ก็ทำรัฐประหารโค่น ‘ทักษิณ’
‘ทักษิณ’ เคยให้สัมภาษณ์ในรายการของ CARE คิด เคลื่อน ไทย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 บอกเล่าเบื้องหลังหวิดถูกคาร์บอมบ์ถล่มที่ใต้สะพานซังฮี้ไว้ว่า “ที่ไม่ระเบิดก็มี 2 สาเหตุ 1.อาจจะต่อไม่ดีพอ กดแล้วไม่ระเบิด 2.ผมออกจากบ้านเร็ว เขาเลยไปกินอาหารอยู่ในตลาด แล้ววิ่งมาไม่ทัน และกลัวเวลากดระเบิดเนี่ย เป็นระเบิดเครื่องบินบังคับ แล้วไปหลบอยู่เสาเหล็ก การไปกดอยู่เสาเหล็ก ไม่ผ่าน ผมเลยไม่ตาย… และถ้าฆ่าไม่ตายจะปฏิวัติ”
แม้คดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษร.ท.ธวัชชัย ข้อหา นำพาระเบิดเข้ามาในเมือง และยกฟ้องข้อหาลอบสังหาร แต่ก็ถือว่าคดีมีมูล หาใช้การกล่าวอ้างเพียงลอยๆ
สำหรับประเด็นการถูกลอบสังหารนายทักษิณ ยังเชื่อว่ามีความพยายามลอบสังหารตนเองมาแล้วถึง 4 ครั้งแต่ก็รอดพ้นมาได้ ซึ่งเจ้าตัวยังระบุว่ารู้ตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อีกด้วย
ดังนั้นกรณีโพสต์ขู่ฆ่าเศรษฐา แม้จะเป็นแค่การระบายอารมณ์ของคนอารมณ์ค้างจากการตั้งรัฐบาล แต่ก็เป็นกระแสข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน