เมื่อวันที่ 12 พ.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ทวีตข้อความผ่าน X (Twitter) ว่า “เดินหน้าต่อ 30 บาทรักษาทุกโรค ยกระดับเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน” พร้อมแนบลิงก์ บทสัมภาษณ์ของนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นการต่อยอดนโยบาย 30 บาทของพรรคเพื่อไทย (พท.)

นพ.สุรพงษ์ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าใช้บัตรประชาชน ใบเดียวรักษาทุกที่ว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ได้ให้ 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส มารายงานความคืบหน้าต่างๆ เห็นได้ว่ามีความพร้อมกว่า 80% แล้ว จะมีการทดลองระบบเป็นระยะๆ ในช่วงต้นเดือนธ.ค. เชื่อว่าวันที่ 8 ม.ค.2567 ที่นำร่องจะประสบความสำเร็จ ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้อย่างไม่มีรอยต่อแน่นอน

โดยกำชับว่าทำอย่างไรให้ประชาชนรับทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไประบบนี้จะเริ่มใช้ได้ และฝากว่าต้องพิจารณาถึงระยะที่ 2 ที่ต้องมีจังหวัดอื่นตามมา เพราะเชื่อว่าหลังจากนำร่อง 4 จังหวัดแล้วเห็นถึงความสะดวกของประชาชน มีผลข้อมูล การศึกษาพฤติกรรมของประชาชน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้สามารถนำร่องระยะที่ 2 อย่างมั่นใจมากขึ้น จึงมอบหมายให้พิจารณาว่าจะมีจังหวัดไหนบ้าง

เราตั้งเป้าหมายว่าระบบข้อมูลทั้งระบบควรจะต้องสมบูรณ์แบบภายใน 1 ปี คือ วันที่ 1 ต.ค.2567 ต้องเห็นการเชื่อมต่อข้อมูล โดยไร้รอยต่อในทุกสังกัด ความหมายคือ 1 ปีข้างหน้า บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ควรสามารถทำได้ทั้งประเทศ โดยแต่ละช่วงจะมีการเพิ่มจังหวัดนำร่องมากขึ้น ตั้งเป้าว่าไม่เกิน 2 เดือน น่าจะมีระยะที่ 2 ได้ อาจจะเดือนมี.ค.2567

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน