กทม. – เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่สำนักงานเขตหลักสี่ นายประทุม ทับเกษตร ผู้ควบคุมคนงานเก็บขนมูลฝอย ฝ่ายรักษาความสะอาด สำนักงานเขตหลักสี่ พร้อมพนักงานเก็บขนมูลฝอย สำนักงานเขตหลักสี่ รวมตัวกันถือป้ายขอความเป็นธรรม หลังถูกหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดปรับเปลี่ยนโยกย้ายเส้นทางเดินรถเก็บขนมูลฝอย
นายประทุมกล่าวว่า ในฝ่ายรักษาความสะอาด ได้มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายเส้นทางการทำงานของพนักงานเก็บขนมูลฝอยและพนักงานรวมกว่า 70 คน โดยไม่มีการสอบถามความสมัครใจแต่อย่างใด ตนจึงได้เข้าไปสอบถามหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดถึงสาเหตุ ทำให้เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมาถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว โดยหัวหน้างานให้เหตุผลว่าตนก้าวร้าว ข่มขู่ผู้บังคับบัญชา นอกจากนี้ ในการทำงานตนมาทำงานช้าไป 1 นาที หัวหน้าฝ่ายได้ขีดเส้นขาดงานของตนด้วย ตนรู้สึกว่าได้รับความไม่เป็นธรรม จึงรวมกับลูกน้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า คาดว่าการปรับเปลี่ยนเส้นทางของพนักงานเก็บขนมูลฝอยเป็นไปตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งมีหลักการว่าการย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่งสมควรได้รับการพิจารณาให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งอื่นในหน่วยงาน หรือส่วนราชการเดียวกัน หรือต่างหน่วยงาน หรือส่วนราชการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการทำงานในหลากหลายด้านและพื้นที่ รวมทั้งพัฒนาทักษะในการบริหาร พัฒนาแนวคิดและทัศนคติให้กว้างไกล การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานใหม่ และให้คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งป้องกันการทุจริต
ถูกโยกเขต – นายประทุม ทับเกษตร ผู้ควบคุมคนงานเก็บขนมูลฝอย ฝ่ายรักษาความสะอาด สนง.เขตหลักสี่ พร้อมพนักงานเก็บขนมูลฝอยเขต รวมตัวกันถือป้ายขอความเป็นธรรม หลังถูกปรับเปลี่ยนโยกย้ายเส้นทางเดินรถเก็บขนมูลฝอย ที่ สนง.เขตหลักสี่
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.มีนโยบายว่าทุกเขตต้องเก็บขยะทุกจุดอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ช่วงเดือนที่ผ่านมามีหลายเขตเก็บได้ 50% ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเส้นทางและโยกย้ายพนักงานเพื่อให้ดูแลประชาชนได้ดีขึ้น คงต้องทำความเข้าใจกับพนักงานว่าการโยกย้ายเป็นอย่างไร เพราะบางคนไม่คุ้นชิน เข้าใจว่าหัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดจะต้องย้ายด้วย ซึ่งพยายามหมุนเวียนทุก 3 ปี เพื่อให้เกิดการตื่นตัว เพราะหากอยู่ในเขตเดิมนานๆ อาจเกิดความเคยชิน การนำคนใหม่เข้ามาจะทำให้เกิดการมองมุมใหม่ การโยกย้ายก็จะโยกย้ายระหว่างคนที่อยู่ในเขตใกล้เคียงกัน
ส่วนที่มีประเด็นเรื่องทุจริตจะต้องไปสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง เรื่องนี้ยอมไม่ได้อยู่แล้ว ขอให้มีหลักฐานมา จะจัดการให้ ย้ำว่าจุดประสงค์หลักในการโยกย้ายคือให้บริการประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ทุกจุดในกทม.ต้องเก็บขยะ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ที่ผ่านมาปรับปรุงได้ดีขึ้นมา อาจจะมีเขตสายไหมที่มีพื้นที่กว้างและประชากรจำนวนมากเพิ่งเก็บได้เพียง 96% ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการเขตลงพื้นที่ไปดูแล้ว
นายชัชชาติยังกล่าวถึงกรณีขยะตกค้างเป็นจำนวนมากจากการประท้วงของพนักงานว่า การดูแลประชาชนต้องมาเป็นอันดับแรก หากไม่พอใจแล้วดูแลประชาชนไม่ดีจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ไม่พอใจมาคุยกันได้ ส่วนตัวก็ลงพื้นที่ตลอด ไม่ใช่ไม่พอใจแล้วไม่เก็บขยะ ฝากบอกด้วยว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ตนรับฟังทุกคนอยู่แล้ว ให้เกียรติทุกคนเหมือนกันหมด เท่าเทียมกัน แต่จะเอาประชาชนเป็นตัวประกันไม่ได้ ถ้าเกิดมีปัญหาจะลงไปดูเอง ถ้า ผอ.เขตคุยจบก็น่าจะไม่มีอะไร เป็นเรื่องธรรมดา การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ ถ้าเปลี่ยนแปลงเพื่อให้บริการประชาชนได้ดีขึ้น
