'กฤษณะกร'ประธานอาวดี้ไทยอึ้ง! วงการตลาดรถยนต์ซัดกันฝุ่นตลบ

แม้ค่ายรถหรูจากแดนไส้กรอก ‘อาวดี้’ ภายใต้การดูแลของ อาวดี้ ประเทศไทย ทำตลาดในบ้านเรามาเพียง 7 ปี แต่ด้วยเพราะทีมผู้บริหาร ที่คร่ำหวอด และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ช่วยให้ทั้งแบรนด์ และยอดขายดีวันดีคืน

‘ข่าวสด ยานยนต์’ มีโอกาสได้สัมภาษณ์ กฤษณกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรืออาวดี้ ประเทศไทย เล่าถึงมุมมอง ต่อทิศทางตลาดรถยนต์บ้านเรา จากนี้เป็นอย่างไร

ตลาดรถยนต์จากนี้ไป
ผมอยู่ในวงการรถยนต์มา 33 ปี ไม่เคยเห็นมาก่อน ว่ามีค่ายรถมากมายขนาดนี้ ผู้เล่นมากขึ้น และยังจะมีเพิ่มขึ้นอีกใน 1-2 ปีจากนี้ไป เรียกว่าตลาดรถยนต์ช่วงนี้ฝุ่นตลบกันเลยทีเดียว จากการเข้ามาของค่ายรถอีวีจากจีน แต่ขนาดตลาดเท่าเดิม หรือลดลงด้วยซ้ำ ต้องแย่งเค้กก้อนเท่าเดิม ทำให้แต่ละค่ายต้องทำการตลาดหนักขึ้น แคมเปญแรงที่สุดในรอบ 10-20 ปี เป็นการแข่งขันอย่างสมบูรณ์แบบ หรือที่เรียกว่า เรดโอเชี่ยน ถือว่าเป็นโอกาสของผู้บริโภค ที่จะสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

แต่ทั้งนี้ ลูกค้าที่มีกำลังซื้อจริงๆ มีจำนวนอยู่เท่าไหร่ ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจบ้านเราวันนี้ยังไม่ดีขึ้น ดูได้จากยอดขายรถปิกอัพ ซึ่งเป็นรถสำหรับใช้ทำมาหากิน ที่ลดลงค่อนข้างมาก ขณะที่ตลาดหุ้นต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อรถระดับพรีเมียม ทำให้ต้องชะลอการตัดสินใจ

ยอดขายตลาดรวม
ดูอยู่ว่าจะไปถึง 850,000 คันหรือไม่ ถ้าถึงส่วนหนึ่งมาจากรถอีวี เพราะคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ยอดขายรถอีวี น่าจะเกิน 80,000 คัน ส่วนปีหน้าจะยิ่งเพิ่มขึ้น จากแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ตลาดจะปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว มุ่งไปที่รถอีวี แต่ทั้งนี้รถยนต์สันดาปภายใน ยังคงไปได้อยู่ แต่สัดส่วนยอดขายจะลดลง 4-5 ปีจากนี้ไปอาจจะเหลืออยู่ที่ 50% เท่านั้น เพราะมีลูกค้าบางกลุ่ม โดยเฉพาะเจน X ที่ยังไม่กล้าใช้รถอีวี ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง

ส่วนคนที่เปิดใจรับยังกังวลเรื่องการชาร์จไฟ ก็จะหันไปใช้รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งเป็นกลุ่มที่เหมาะสมอย่างมาก ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะใช้งานได้สะดวก ชาร์จไฟก็ได้ ไม่ชาร์จก็ใช้น้ำมันไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5-6 ปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้น หากรัฐบาลให้การส่งเสริม พร้อมทั้งเร่งสร้างสาธารณูปโภคมารองรับการเติบโตได้ทัน

รถอีวีจีนเข้ามามาก
เป็นเรื่องดีนะ การที่ค่ายรถอีวีจีนเข้ามาลงทุน ได้ทั้งเงิน การจ้างงาน และความรู้ในการผลิต จะทำให้การผลิตรถในบ้านเราเพิ่มขึ้น จริงอยู่ความต้องการในประเทศมีอยู่ไม่ถึง 1 ล้านคันต่อปี แต่หากผลิตได้จำนวนมาก แล้วส่งออก ก็จะนำเงินเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก การส่งเสริมของภาครัฐถือว่าทำได้ถูกต้อง ส่วนลูกค้าเป็นผู้เลือกเองว่าเทคโนโลยีใดเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด รวมถึงคุณภาพสินค้า ราคา และคุณค่า โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาต้องขายต่อ

ผลงานอาวดี้ในปีนี้
ลูกค้ารู้จัก อาวดี้ มากขึ้น ไม่เดินเข้ามาถามแล้วว่าเราเป็นใคร แล้วหันมาถามว่ามีแคมเปญอะไร แสดงว่าการสื่อสารของเราถึงลูกค้าตัวจริง เมื่อต้นปีคาดว่าตัวเลขยอดขายจะเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่ถึงขณะนี้ 10 เดือน ยอดขายเท่ากันกับ 10 เดือนของปีที่แล้ว ทำให้ต้องปรับตัวเลขยอดขายทั้งปีใหม่เป็นเท่ากับปีที่แล้ว แม้ยอดจองจะมีเพิ่มเข้ามาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากหุ้นตก ลูกค้าจำนวนมากขอเลื่อนการส่งมอบ เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน

อย่างไรก็ตาม อาวดี้ มีรถครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน แบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถอีวี ล่าสุดได้ออกเคมเปญ เพื่อกระตุ้นยอดขาย รองรับความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผ่อน 0% นาน 48 เดือน แบบเอาราคารถตั้งหารด้วย 48 คือเงินค่างวดผ่อน ขณะที่บางส่วนต้องการผ่อนนาน จัดแพ็กเกจดาวน์ 20-30% แล้วผ่อน 0% นาน 72 เดือน ส่วนลูกค้าที่ซื้อเงินสด รับประกันภัยชั้น 1 นาน 5 ปี จากปกติจะได้เพียง 1 ปี

ซึ่งบอกเลยว่าทุกแพ็กเกจ คุ้มค่าที่สุดตั้งแต่อาวดี้ ประเทศไทย เคยทำโปรโมชั่นมา