‘Give Birth Great World’ เป็นโครงการระดับประเทศ ที่ต้องการเปลี่ยนทัศนคติของการเกิดเป็นการให้ที่ ยิ่งใหญ่ของโลก

เนื่องจากอัตราการเกิดของประชากรโลกที่ลดลง จนกลายเป็นปัญหาของหลายประเทศทั่วโลก

ในวันเปิดตัวแคมเปญ ‘Give Birth Great World’ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงปัญหาภาวะเด็กเกิดน้อยที่เป็นปัญหาของหลายประเทศ ทั่วโลก ว่า จากข้อมูลระบุว่าหากไม่แก้ไขหรือดำเนินการใดๆ ภายในปี พ.ศ.2643 ค่าเฉลี่ยการมีบุตรของผู้หญิงทั่วโลกจะลดลงเหลือเพียง 1.7 คน ส่งผลให้ประชากรโลกจะปรับตัวถึงจุดสูงสุดที่ราว 9,700 ล้านคน ในปี พ.ศ.2607 ก่อนจะปรับตัวลดลงเหลือ 8,800 ล้านคนในปี พ.ศ.2643

และในอนาคตอันใกล้นี้ ไทยจะเป็นหนึ่งใน 23 ประเทศของโลกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวมากที่สุด โดยอัตราการเจริญพันธุ์ของประเทศจะปรับลดลงถึงต่ำสุดและประชากรของประเทศจะเหลือเพียงแค่ 50% ของที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประเทศที่ได้รับผล กระทบมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนหน้านี้มาแล้ว หลายปี รวมทั้งสเปน อิตาลี เกาหลีใต้

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า สธ.ได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มประสิทธิภาพของคลินิกส่งเสริมการมีบุตรคุณภาพ เช่น คลินิกส่งเสริมการมีบุตรของกรมอนามัยจำนวนทั้งสิ้น 12 แห่งใน 12 ศูนย์อนามัยทั่วประเทศ ที่พร้อมให้คำปรึกษา, ศูนย์ส่งเสริมการมีบุตรและรักษาผู้มีบุตรยาก ทั่วประเทศ 107 แห่ง ใน 16 จังหวัด เป็นสถานพยาบาลภาครัฐ 16 แห่ง สถานพยาบาลเอกชน 91 แห่ง ที่มีการเตรียมความพร้อม 100% ในการรับมือกับปัญหาใหญ่ที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ได้เตรียมจัดทำแคมเปญใหญ่ ‘Give Birth Great World’ เป็นโครงการระดับประเทศและอาจเชิญชวนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้เข้าร่วม ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติของการเกิดเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

ด้าน พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เผยว่า ประเทศไทยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงเหลือเพียง 485,085 คน ซึ่งเป็นจำนวนการเกิดที่ต่ำที่สุดและเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่ประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ต่ำกว่า 500,000 คน สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปีพ.ศ.2565 มีประชากรผู้สูงอายุมากถึงกว่า 12 ล้านคน

หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ภายในปีพ.ศ.2626 หรือ 60 ปีจากนี้ ประชากรไทยจาก 66 ล้านคน จะลดเหลือเพียง 33 ล้านคน และประชากรสูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จะเพิ่มจาก 8 ล้านคน เป็น 18 ล้านคน ส่งผลให้เกิดภาวะพึ่งพิงเพิ่มขึ้น งบประมาณในการรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น ส่วนวัยทำงาน อายุ 15-64 ปี จะลดลงจาก 46 ล้านคน เหลือเพียง 14 ล้านคน ซึ่งหมายถึงจำนวนแรงงานที่ลดลง ผลผลิตโดยรวมของประเทศลดลง และภาษีที่จัดเก็บได้ลดลง ขณะที่ประชากรวัยเด็กอายุตั้งแต่ 0-14 ปี จะลดจาก 10 ล้านคน เหลือเพียง 1 ล้านคน เท่านั้น

โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังเปิดคลินิกส่งเสริมการมีบุตร ร.พ.ราชวิถี ว่า ปัจจุบันไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว และมีปัญหาประชากรเกิดน้อย สาเหตุหลักมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจ และค่านิยมการมีบุตรที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สธ. มีนโยบายเรื่องส่งเสริมการมีบุตร ดังนั้น กรมการแพทย์โดย ร.พ.ราชวิถี จึงจัดให้มีคลินิกส่งเสริมการมีบุตร เน้นให้บริการเชิงรุกคู่สมรสที่เพิ่งแต่งงานเป็นหลัก เนื่องจากครอบคลุมกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ที่ยังมีอายุไม่มากเกินไป มีสุขภาพที่ดี และมีโอกาสที่จะมีบุตรที่มีคุณภาพ

ส่วนการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากจัดเป็นประเด็นสำคัญลำดับถัดมา เนื่องจากครอบคลุมกลุ่มประชากรที่มีจำนวนไม่มาก และสามารถเข้ารับบริการที่คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ของ ร.พ.อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังมอบหมาย ร.พ.ราชวิถีจัดอบรมเรื่องการตรวจน้ำอสุจิ การเตรียมน้ำอสุจิและการฉีดน้ำอสุจิเข้าโพรงมดลูก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน สามารถให้บริการได้ที่ ร.พ.ขนาดเล็กโดยสูตินรีแพทย์ทั่วไป และมีราคาที่ไม่แพง เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงของประชาชนอีกด้วย

นพ.ทรงพล พุทธศิริ หัวหน้างานเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ร.พ.ราชวิถี กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ร.พ.ราชวิถี ได้หยุดให้บริการทำเด็กหลอดแก้วไปช่วงหนึ่ง โดยปัจจุบันได้ย้ายมาเปิดดำเนินการที่ชั้น 6 อาคารทศมินทราธิราช และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์การแพทย์เพื่อการมีบุตร”

สำหรับให้บริการตรวจรักษาภาวะมีบุตรยากที่ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยภาวะมีบุตรยาก การฉีดน้ำอสุจิเข้าโพรงมดลูก การทำเด็กหลอดแก้ว การแช่แข็งตัวอ่อนและเซลล์สืบพันธุ์

นอกจากนี้เพื่อช่วยขับเคลื่อนนโยบายของกรมการแพทย์ที่ต้องการส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ทางหน่วยเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์จึงได้เปิดให้บริการคลินิกส่งเสริมการมีบุตรเพื่อเตรียมตัวคู่สมรสให้มีความพร้อมในการมีบุตรในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน