พรรคก้าวไกลประสบกับประเด็นร้อนต่อเนื่อง ล่าสุด เจอดราม่า กรณี น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล ตั้งสามีรับตำแหน่งผู้ช่วยสส.
กระทั่งนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เตรียมนำประเด็น ดังกล่าวหารือในพรรค เพื่อวางหลักเกณฑ์การแต่งตั้งผู้ช่วยสส.
ยืนยันว่าพรรคไม่ได้ปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ และนโยบายพรรคชัดเจนไม่อยากเห็นการตั้งผู้ช่วยสส. โดยเฉพาะการตั้งญาติพี่น้องเพื่อมารับเงินเดือน ซึ่งสส.เขตบางคนก็ให้เหตุผลในการตั้งเครือญาติ มาเป็นผู้ช่วยสส. เพื่อเข้ามาทำงานจริงๆ
ชัยธวัช ตุลาธน
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เมื่อสาธารณะเห็นว่ามีความไม่เหมาะสม ก็ต้องยอมรับเอาสิ่งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มาพูดคุยกันภายในพรรคว่าในอนาคตเราจะมีมาตรฐานในการแต่งตั้งผู้ช่วยสส.อย่างไร
พรรคจะนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ ในเมื่อสังคมคาดหวังมาตรฐานเช่นนี้ โดยเฉพาะกับสส.ของพรรคก้าวไกล เราควรต้องทบทวนแนวทางในการแต่งตั้งผู้ช่วยสส.หรือตำแหน่งอื่นๆ ในการทำงาน
ต้องยอมรับว่าตอนนี้มีคนที่จับจ้องการทำงาน แม้กระทั่งพฤติกรรมส่วนบุคคลของสส. และผู้ช่วยส.ส.ของพรรคก้าวไกล ถ้ามองในแง่ดีก็จะทำให้บุคลากรในพรรคต้องตระหนักและวางตัวอย่างเหมาะสม เพราะสังคมจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สังคมได้ตรวจสอบเรื่องนี้
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ที่ตามจับผิดพรรคก้าวไกลทุกเรื่องเปิดประเด็นใหม่ ครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ น.ส.ญาณธิชา
กรณีทีมงานชื่อ “ต้น” รับงานและจัดหาเด็กเอ็นเตอร์เทน ตามติดมาด้วยการตั้งสามีตัวเองเป็นผู้ช่วยสส. พ่วงข้อกล่าวหา มีพฤติกรรมถึงเนื้อถึงตัวเด็กเอนฯ และเกี่ยวข้องธุรกิจสีเทา
ญาณธิชา บัวเผื่อน
น.ส.ญาณธิชาได้โพสต์ชี้แจงเป็นระยะ ต้นเป็นอาสาสมัคร ที่เข้ามาช่วยงาน ไม่ใช่ผู้ช่วยสส.ที่รับเงินเดือน และทำงาน เอ็นเตอร์เทนจริง แต่ไม่ได้ทำงานประเภทใดๆที่เข้าข่ายค้าประเวณีที่ผิดกฎหมาย บอกด้วยว่ามีหลักฐานที่เพจคู่ปรับก้าวไกลเข้าหา ทีมงานคนดังกล่าวเพื่อหลอกล่อ
ส่วนประเด็นการแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วยสส. น.ส.ญาณธิชา ยอมรับว่าจริง และพร้อมให้ตรวจสอบ เพราะเข้าใจดีว่าการแต่งตั้ง เครือญาติมาทำงานรับเงินเดือนจากรัฐ ย่อมทำให้ถูกตั้งคำถามจาก สังคม และต้องตามมาด้วยภาระพิสูจน์ว่าทำไมถึงตัดสินใจดังกล่าว
ทุกคนในทีมคัดเลือกจากคนที่ทุ่มเท มีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันสามีตัวเองในฐานะผู้ช่วยสส. ช่วยทำงานด้านสื่อ ถ่ายรูป ทำกราฟิก ทำคลิปต่างๆ ลงในเพจ รวมถึงการประสานงานในพื้นที่
เหตุผลเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องตั้งสามีมาทำหน้าที่ เป็นในฐานะ สส.เขต ที่ต้องทำงานในสภาควบคู่งานพื้นที่ หลายครั้งต้องเดินทางไกล ช่วงกลางคืน หรือพักข้ามคืนระหว่างทาง การมีสามีมาช่วยขับรถรับส่งทำให้อุ่นใจด้านความปลอดภัย
ยืนยันไม่มีเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศและธุรกิจสีเทาอย่างที่เพจพยายามจะโยง
ขณะที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) ว่าตัวเองก็จ้างแฟนมาเป็นผู้ช่วยสส.
“ผมขอร้องให้แฟนลาออกจากงานมาเป็นผช.สส.เงินเดือน 15,000 ตั้งแต่ปี 62 เพราะในขณะที่ผมอยู่สภา ก็อยากได้คนทำงานหลังบ้านที่ไว้ใจได้ รับเรื่องร้องทุกข์ ประสานทีมงาน หน่วยงานราชการในพื้นที่ ดูแลทีมงาน ลงพื้นที่ รับงานดูคิวงานบุญ งานพิธีให้ได้ ก่อนเล่นข่าวพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าคนที่แต่งตั้งมา ตั้งมานั่งกินเงินเดือนเฉยๆ รึเปล่า สส.เล็ก งานพื้นที่ดีมากๆ ถ้าทัวร์อยากลง มารวมที่นี่เลย” นายจิรัฏฐ์ระบุ
นำมาสู่เสียงข้อถกเถียงในโซเชี่ยล กรณีตั้งคนในครอบครัว มาเป็นผู้ช่วยสส. หลายเสียงเปรียบเทียบกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แต่งตั้งภรรยา พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ หรือ หมอก้อย เป็นคณะที่ปรึกษา รมว.สธ.
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตถึงการตรวจสอบ โดยไม่ยอมเปิดเผยตัวตน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มองว่า ความสำคัญอยู่ที่ว่าตั้งใครแล้วคนนั้นทำงานจริงหรือไม่ ซึ่งไปถามคนในพื้นที่ได้
แต่สิ่งที่น่ากังวลคือพฤติกรรมสตอล์กเกอร์ (Stalker) คอยสอดแนม ติดตาม แอบถ่าย ละเมิดความเป็นส่วนตัว กล่าวหาทางร้ายเพียงภาพๆ เดียว โดยไม่ฟังบริบท
ตอนนี้การกล่าวหาพ่วงไปถึงประชาชนโดยเพจที่ไม่ได้มีตัวตน การตรวจสอบ สส.บุคคลสาธารณะทำเลย กรณีต้องสงสัยใครเป็นบุคคลใกล้ชิดแต่งตั้งมาทำงานจริงหรือไม่ก็ทำเลย แต่ประชาชนคนธรรมดาที่เป็นจิตอาสาในพื้นที่ ถึงขั้นสอดแนมติดตาม ล่วงละเมิด ความเป็นส่วนตัว กฎหมาย PDPA จะมีไว้ทำไม
“ถ้าคุณไม่มีตัวตนแล้วชี้แจงผ่านสาธารณะ วิงวอนถ้าใครสงสัยพรรคก้าวไกลเปิดเผยอยู่แล้ว ร้องเรียนที่พรรคเราพร้อมตรวจสอบ ให้เกียรติทุกคน เพจแบบนี้มีเยอะแยะในประเทศ ถ้าเป็นประเทศที่สังคมเจริญแล้วพัฒนาแล้วผมว่าไม่ใช่” นายวิโรจน์ระบุ
