เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือฤกษ์เวลา 09.29 น. นำพวงมาลัยไหว้สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม ก่อนแถลงเปิดตัวลงสมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ขอสื่อไปยังสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ประชาชนที่ยังคงรักในพรรคประชาธิปัตย์ และประชาชนทั่วไปว่า ตนตั้งใจขอเสนอตัวเป็นหนึ่งทางเลือกในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้

ตนยังเชื่อมั่นและเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นได้ชัดว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นประชาธิปไตย เสรีภาพ และการเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของอย่างแท้จริง

เราจะเริ่มต้นด้วยการทำการเมืองใหม่ที่ซื่อตรง และจริงใจ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับมาได้รับความไว้วางใจ ให้กลับมาเป็นความหวัง เพื่อยืนยันในพลังประชาธิปไตย และเพื่อเสนออนาคตให้กับ ทุกคนในวันข้างหน้า เชื่อมั่นว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนจะเปิดโอกาสพิจารณาให้กับบุคลากรที่เห็นว่ามีความเหมาะสม

“ในการลงสมัครไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมที่จะน้อมรับการตัดสินของสมาชิกพรรคทุกคน สิ่งที่ตัดสินใจคือลงสู้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเพื่อเสนอตัวเป็นทางเลือกหนึ่งของสมาชิกพรรค ในการกลับมาฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นที่รัก และศรัทธาของประชาชนในวันข้างหน้า”

ผู้สื่อข่าวถามว่าคะแนนสำคัญในการเลือกหัวหน้าพรรคคือสส. ได้พูดคุยกับสส.หรือสมาชิกเพื่อขอคะแนนหรือไม่อย่างไร น.ส.วทันยากล่าวว่า ก่อนที่จะมาแถลงข่าวมีโอกาสไปกราบเรียนผู้ใหญ่และพูดคุยกับสมาชิกพรรคบางส่วน ส่วนจะมีสส. หรือสมาชิกท่านไหนมาเป็นทีมงานในการ พูดคุยวันนี้ยังไม่มีข้อสรุป

อย่างที่บอกจุดเริ่มต้นของตนคืออยากนำเสนอตัวเอง ในการรับสมัครหัวหน้าพรรค ที่สำคัญการที่จะฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ได้เราต้องเลือกคนที่มีความสามารถเป็นที่ตั้ง ส่วนตัวจึงอยากก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ รวมถึงอคติทางเพศหรือข้อจำกัดของวัยเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ตนพร้อมทำงานกับทุกๆ คน ทุกฝ่ายในพรรค ไม่ได้เลือก ในแง่ตัวบุคคล วันนี้อยากเสนอตัวเองเป็นทางเลือก หลังจากนั้น จะมีการพูดคุยในเรื่องทีมงานเป็นลำดับถัดไป

ส่วนที่ปรากฏชื่อนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองเลขาธิการพรรค เป็นแคนดิเดตเลขาธิการพรรคนั้น ส่วนตัวได้พูดคุยกับนายชัยชนะว่าตนตัดสินใจที่จะลงสู้ หากวันนี้ยังไม่กล้าที่จะตัดสินใจคงไม่ต้องพูดถึงการเมืองหลังจากนี้ รวมถึงการเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือการเลือกตั้งระดับชาติในอีก 4 ปีข้างหน้า

ตอนนี้ไม่อยากเอาตัวบุคคลเป็นตัวกำหนด ที่ผ่านมา การเลือกหัวหน้าพรรคปรากฏภาพความขัดแย้งที่พบว่า พอได้ตัวหัวหน้าพรรคหรือได้ทีมที่ชนะ ทีมที่แพ้ไม่มีที่ยืนในการทำงาน ฉะนั้นความสำเร็จในการฟื้นฟูพรรคจะต้องเกิด ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูอุดมการณ์ให้แข็งแรงขึ้น

ขอย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้ตัดสินใจด้วยตนเอง ไม่ได้เกี่ยวกับการเจรจาใดๆ และได้กราบเรียนผู้ใหญ่ทุกคนรวมถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ถึงความตั้งใจลงชิงหัวหน้าพรรค ไม่ว่านายเฉลิมชัยจะตัดสินใจอย่างไรตนพร้อมยอมรับ และไม่ว่าผลการเลือกตั้ง จะเป็นอย่างไรพร้อมที่จะทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามคิดว่าหลังเลือกหัวหน้าพรรคบรรยากาศที่ดีจะกลับมา ไม่หันหลังให้กันเหมือนที่ผ่านมาใช่หรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า นั่นเป็นเหตุผลที่ยังไม่เปิดตัวทีมงาน เพื่อพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เลือกคนที่ตัวบุคคลหรือมีความสัมพันธ์ เป็นอย่างไร ส่วนตัวอยากก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ อยากทำการเมือง สร้างสรรค์ และส่วนตัวยังไม่มีโอกาสคุยกับนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค หนึ่งในแคนดิเดต ชิงหัวหน้าพรรค แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกัน ยืนยันว่าสามารถร่วมงานกันได้ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร

ต่อข้อถามว่า หากเป็นหัวหน้าพรรคที่ต้องอยู่นอกสภากังวลเรื่องการทำงานร่วมกับสส.โดยเฉพาะการโหวตที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา โดยธรรมเนียมของพรรคประชาธิปัตย์ในการโหวตอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะการเป็นวาระที่สำคัญ กฎเหล็กของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นประเพณีปฏิบัติจะต้องมีการร่วมประชุมและต้องมีการโหวตเพื่อหามติร่วมกันในที่ประชุมในบทบาท ตรงนี้คงไม่ได้เป็นอุปสรรคว่าจะต้องทำงานอยู่ภายนอกรัฐสภา วันนี้โลกได้เปิดกว้างเรามีการสื่อสารโดยเฉพาะช่องทางโซเชี่ยลมีเดียไม่ได้ มีข้อจำกัดเหมือนในอดีต

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน วิสัยทัศน์ของฝ่ายค้านจะเป็นอย่างไร น.ส.วทันยากล่าวว่า ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างดีที่สุดในฐานะตัวแทนประชาชน เพื่อให้เป็นไปไปด้วยความรัดกุมรอบคอบ โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ที่เป็นปัญหาฝังรากลึกภายในประเทศ และเป็นตัวฉุดรั้งการพัฒนาการเติบโต ยืนยันว่าไม่มีปัญหาการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล เราพร้อมทำงานร่วมกับ ทุกพรรคการเมือง ที่มีเจตนาทำเพื่อประโยชน์ประเทศ

เชื่อว่าหลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้า จะเกิดความชัดเจนในการทำงานมากขึ้น ต่อข้อถามว่า หากเป็นหัวหน้าพรรคจะมีโอกาสไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ น.ส.วทันยากล่าวว่า จุดมุ่งหวังขณะนี้คือการเป็นฝ่ายค้าน จึงขอประกาศที่จะเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้มุ่งหวังในการแสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงอำนาจในการที่จะไปจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าไม่เหมาะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพราะยังอ่อนพรรษา น.ส.วทันยากล่าวว่า เรื่องประสบการณ์เป็นเรื่องที่จำเป็น แต่ตนคิดว่ามีไฟและ มีพลัง ที่สำคัญมีปณิธานที่ต้องการเข้าไปฟื้นฟูพรรคและพัฒนาประเทศ

ในส่วนของการทำงานพรรคมีบุคลากรที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน และการจะประสบความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่คนคนเดียว แต่เกิดจากที่ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน ฉะนั้นคิดว่าสมาชิกจะเข้ามาช่วยเติมเต็มในการทำงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน