กทม. – เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เขตดุสิต นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานเปิดกิจกรรม เวิร์กช็อป “โบ๊เบ๊ on TikTok” ว่า ภายหลังการจัดระเบียบผู้ค้าตลาดโบ๊เบ๊แล้วเสร็จ กทม.มีแผนสนับสนุนร้านค้าเข้าสู่การขายในแอพพลิเคชั่น TikTok ตามสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปซื้อขายสินค้าในระบบออนไลน์มากขึ้น
“ผมยืนยันว่าเป็นห่วงโบ๊เบ๊ตลอด อยากให้มีอัตลักษณ์ที่ดีและเข้มแข็ง ช่วงเปลี่ยนผ่านอาจมีความยากลำบากเป็นเรื่องธรรมดา ปัจจุบันสภาพทางกายภาพดีขึ้นแล้ว จากนี้ต้องช่วยกันทำมาร์เก็ตติ้ง เรื่องติ๊กต็อก ใครอยากให้ผมไปช่วยแจ้งมาเลยนะ จะไปช่วยโปรโมตร้านค้าให้ อยากให้ไปพูดเรื่องอะไร จะไปเป็นดาวติ๊กต็อก ให้เลยในร้านค้าของเรา” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า ทุกอย่างจำเป็นต้องปรับตัวเข้ากับยุคสมัยเพื่อความอยู่รอด ร้านค้าตลาดโบ๊เบ๊มีจุดแข็งด้านชื่อเสียงอยู่แล้ว การเรียนรู้เรื่องการค้าขายในแพลตฟอร์มติ๊กต็อก สร้างประโยชน์ 4 เรื่อง คือ
1.ค้าขายได้ตลอดเวลา ขยายร้านได้ไม่จำกัด ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปิดปิด การเช่าพื้นที่ หรือกฎระเบียบต่างๆ 2.ค้าขายได้กว้างขวาง รับลูกค้าได้หลากหลายพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทาง ทำให้การค้าขายคล่องตัว 3.ไม่มีผู้ควบคุม ผู้ค้าลงขายสินค้าได้ตลอดเวลา และผู้ซื้อเลือกซื้อสินค้าเวลาใดก็ได้ ไม่จำกัด แม้จะเป็นร้านค้าที่มีพื้นที่น้อย แต่นำเสนอสินค้าในติ๊กต็อกได้จำนวนมาก และ 4.มีเสียง ตอบรับจากผู้ซื้อ ทั้งในแง่ดีและไม่ดี เพื่อการสนับสนุนและพัฒนาต่อไป เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและรักษาอัตลักษณ์ของตลาดโบ๊เบ๊ไว้ จึงอยากให้ผู้ค้าเข้าใจถึงแพลตฟอร์มในการขายออนไลน์
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า กทม.ได้ร่วมกับ TikTok Thailand จัดอบรมผู้ค้าสร้างความเข้าใจการใช้เทคโนโลยี จุดประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจ ให้มีการค้าขายและเข้าถึงสินค้าโดยไม่ต้องเดินทางมาที่ตลาดโบ๊เบ๊ เชื่อว่าหากทำให้ผู้ค้าเข้าใจได้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดีขึ้น เพราะติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ทั่วโลกช่วยโปรโมต อัตลักษณ์ของโบ๊เบ๊
ด้านนางชนิดา คล้ายพันธ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ บริษัท ติ๊กต็อก ประเทศไทย กล่าวว่า การฝึกอบรมเริ่มตั้งแต่การสอนเปิดร้าน การนำสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์ม ภายใต้แนวคิด ขายให้เป็น ขายให้ได้ ขายให้ดี รวมถึงการสอนสร้างคอนเทนต์ นำเสนอเนื้อหาสินค้า และการไลฟ์สตรีม (ถ่ายทอดสดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต) โดยโครงการนี้จะใช้แฮชแท็กชื่อว่า “โบ๊เบ๊เปย์ง่าย” จะมีการติดตามและวัดผลโครงการ เพื่อช่วยเหลือผู้ค้าในอนาคตต่อไป เชื่อว่าโครงการนี้จะได้ผล เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้ให้คนซื้อขายได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ใด โดยไม่ต้องเดินทางมาเอง
