หลังปรากฏกายเป็นแขกพิเศษในภาพยนตร์ “4Kings” จนสร้างความฮือฮา ล่าสุดนักร้องหนุ่ม ‘แหลม’ สมพล รุ่งพาณิชย์ อดีตสมาชิกวง “25 Hours” ตัดสินใจรับงานแสดงเต็มตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “4Kings2” ของ ผู้กำกับฯ ‘พุฒ’ พุฒิพงษ์ นาคทอง โดยรับบทเด่น ‘บ่าง กนก’
วันนี้นักร้องหนุ่มได้มาพูดคุยถึงบทบาทที่ทุ่มเทลงลึกถึงขนาดสลัดความเป็นบ่างไม่ออก
คาแร็กเตอร์ บ่าง กนก เป็นอย่างไร?
แหลม – “บ่างเป็นเด็กมีปัญหา แต่วิธีการแสดงออกเป็นวิธีความรุนแรง เป็นการปกป้องตัวเองโดยอัตโนมัติ เขาไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอข้างในลึกๆ”
“ตั้งแต่ตอนทีมงานติดต่อมาก็ทราบอยู่แล้วว่าจะมี 4Kings2 ถ้าดู 4Kings จะเห็นว่ามีผมอยู่ช่วงท้ายๆ เหมือนบอกว่าติดตามอัลบั้มหน้า ก่อนเริ่มแสดงทางผู้กำกับฯ ก็พาไปเจอพี่บ่าง กนก ตัวจริง เพื่อให้เราสัมผัสถึงตัวตนเขา”
พอมาเป็นนักแสดงเต็มตัวยากไหม?
แหลม – “ยากตรงที่ต้องสวิตช์ตัวเอง กลับไปกลับมา เพราะไม่ใช่ตัวตนเรา การเข้า-ออกบทบาทค่อนข้างสำคัญ ต้องเข้าใจมันก่อนว่าจะเข้า-ออกอย่างไร ผมเคยเผชิญกับการสลัดตัวบ่างไม่ออก ต้องใช้วิธีการอยู่กับลมหายใจ บางทีใช้โยคะในการปลดปล่อย ให้สิ่งที่เป็น Muscle Memory ออกไป เป็นเทคนิคในการแสดงเหมือนกัน พยายามอยู่ในพื้นที่ที่เป็นสันติของเรา”
Advertisement
“ด้วยไม่เคยแสดงหนังยาวๆ การจะเข้าถึงตัวละครมันก็มีการเรียน คือการกะเทาะตัวตน แหลม ที่เป็นนักร้องออกไป เพื่อนำเข้าอีกตัวหนึ่ง ต้องแยกให้ออกว่าอันนี้คือเราที่ไม่ใช่เรา นี่คือบ่าง อย่างบิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด เข้าแล้วเข้าเลย พอเข้าปุ๊บ สายตาเขามาเลย เราต้องช่วยคัตด้วยนะเพราะถ้าไม่คัต เขาจะอยู่แบบนั้น ผมว่านักแสดงมันมีเรื่องนี้แหละที่ต้องพึงระวัง คนอยู่ใกล้ตัวต้องช่วยดึงเพื่อให้กลับมา อันนี้เป็นอันนึงที่ผมเพิ่งเข้าใจว่ามีเรื่องพวกนี้เข้ามาด้วย”
“ผมเป็นนักดนตรี ไม่ใช่นักแสดง พอมาเล่นหนังก็เป็นการเรียนรู้ใหม่ โชคดีเข้าคอร์สการแสดง 2 เดือน เรียนทุกซีนที่ถ่ายหนัง เพื่อเข้าถึงตัวแสดงอย่างลึกซึ้ง”
ภาคสอง ดูดุเดือดมากขึ้น?
แหลม – “ดุเดือดขึ้นเยอะมาก สงครามตอนดึก มีเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฉากตีรันฟันแทงเลือดตกยางออก ตัวละครแสดงออกถึงความรุนแรง ซึ่งมันเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เราได้ยินข่าวก็ดี ก็จะเอามาถ่ายทอด แล้วสิ่งที่ลึกเข้าไปอีกว่าตัวละครมีบาดแผลหรือปมในใจ เป็นเด็กมีปัญหาและเป็นผลพวงให้เขามาสร้างความรุนแรง ซึ่งผู้กำกับฯ ตั้งใจจะถ่ายทอดเรื่องนี้ ผมเชื่อว่าเยาวชนทุกคนไม่ได้อยากเป็นคนไม่ดี แต่เราก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนเติบโตมา อะไรทำให้เขาเป็นคนแบบนั้น ซึ่งก็พยายามจะถ่ายทอดบางช่วง สะท้อนภาพของครอบครัวสังคมที่อยู่รอบข้าง”
อย่างภาคสอง เราเหมือนเป็นคนที่ต้องดำเนินเรื่องมากขึ้น อยู่กับตัวละครบ่างหนักขนาดไหน?
แหลม – “ภาคนี้ที่ผมเล่นบทเยอะมีน้ำหนักในการแสดงเยอะ ทำความเข้าใจตัวละครอย่างลึกซึ้ง ว่าบ่างไปเจออะไรมาบ้าง เขาเป็นใคร พ่อแม่เป็นใคร ทำไมต้องมีปืน ปืนเป็นของใคร แล้วทำไมถึงมีชีวิตแบบนี้ เป็นคนรุนแรงแบบนี้ ก็ใช้พลังเยอะครับ ประกอบกับตอนนี้ผมกลับมาเล่นดนตรีแล้ว มาเป็นศิลปินเดี่ยว มีผลงานออกมา 3 ซิงเกิลแล้ว ตอนนี้ทัวร์คอนเสิร์ตด้วย เล่นหนังด้วย ก็แบกน้ำหนักมากพอสมควรครับ”
เป็นนักดนตรีมาโดยตลอด และหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก มันมีเสน่ห์อะไร ถึงตัดสินใจรับเล่น?
แหลม – “ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีใครติดต่อให้เล่น เพราะเรามีบทบาทชัดเจนทางด้านการเป็นนักดนตรีและไม่คิดออกนอกเส้นทาง เพราะงานเพลงงานทัวร์คอนเสิร์ตเยอะแล้วใช้พลังเยอะ พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมกลับบ้านเลิกรากับวงดนตรี ก็ไปขายกาแฟ คงเห็นในโซเชี่ยล แล้ว ผู้กำกับฯ ติดต่อมาอยากให้ผมไปเล่นหนังเรื่องนี้”
“ตอนแรกผมยังเป็นห่วงอยู่ กลัวจะเป็นการไป ส่งเสริมความรุนแรงหรือไปกระตุ้นอะไรบางอย่างให้เกิดความรุนแรงหรือเปล่า แต่พอได้ดูใจผู้กำกับฯ ได้เห็นหนังที่ถ่ายไว้แล้วมันไม่ใช่ มันเป็นการพาเข้าสู่บทเรียนของคนที่เคยทำ”
“ไม่ใช่กลุ่มอาชีวะอย่างเดียวที่พลาด คนที่ตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่ เพื่อฝันมีเยอะ แต่บางกลุ่มบางคนเขาสร้างความจำให้อาชีวะเป็นแบบนี้ ซึ่งรุ่นพี่หลายๆ คนที่เคยพลาด ที่ใช้ความรุนแรงก็ออกมาเพื่อบอกคนรุ่นหลังว่าสิ่งที่พี่เดินมามันไม่ใช่สิ่งดี มันเป็นประสบการณ์ที่ฝากความเจ็บปวดไว้ในใจ พอเราได้เห็นก็โอเค ถ้าเป็นอย่างนี้เราอยากมีส่วนร่วมเพื่อทำให้เกิดแรงกระตุ้นเพื่อ บอกว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นอุทาหรณ์ และความรุนแรงไม่ได้สร้างให้ใครดีเลยแม้แต่ตัวเองและคนอื่น”
อินแค่ไหนกับตัวละครนี้?
แหลม – “ก็ต้องอินเพราะถ้าไม่อินจะเล่นไม่ได้ มันเป็นบทบาทแล้วเราต้องถ่ายทอดตัวตนนี้ออกมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องยุ่งเกี่ยวกับความรู้สึกรุนแรงภายในใจ ขณะเดียวกันเราก็ได้ปลดปล่อยไปกับตัวละครบ่างด้วย ปมในใจเราด้วยซ้ำ เราก็มีอะไรที่ซ่อนในใจ แล้วผมเชื่อว่าทุกคนก็มี แต่อยู่ที่ว่าจะปลดปล่อยยังไงผ่านอะไร ดนตรีได้ไหม กีฬาได้ไหม มันมีตั้งเยอะที่เราจะปลดปล่อย”
เราเคยมีโมเมนต์เป็นบ่าง กนก ในชีวิตจริงไหม หรือชีวิตวัยรุ่นเราเป็นแบบไหน?
แหลม – “ก็มี แต่อาจไม่ถึงขั้นเหมือนเด็กอาชีวะ เพราะเราเรียนมัธยม แต่เพื่อนไปเรียนโดนแทงมา โทร.หาเราบอกกูโดนแทงก็มี หรือตีกันในโรงเรียนก็มี เขม่นกัน แล้วมีเหตุการณ์จริงที่ไปเที่ยวกับเด็กบ้าน (เด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือจับกลุ่มตามชุมชน) เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ก็ไปกับเขา เขามีนิสัยดุร้าย เวลามองใครจะแบบ เฮ้ยทำไมวะ งงเลย เป็นไรวะทำไมดุและรุนแรงขนาดนั้น อาจเพราะเขาอยู่ในสังคมแบบนึง”
“คือเราไม่ได้ตัดสิน มันเป็นภาพสะท้อนว่าเยาวชนหรือกลุ่มคนที่อาจจะอยู่ในพื้นที่ขาดโอกาสเห็นโลกกว้าง เขาอาจต้องใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิตมากกว่าใช้ปัญญาใช้สติหรือใช้เหตุและผลในการแก้ปัญหา อันนั้นอาจเป็นเรื่องของโอกาสเข้าถึงการศึกษาด้วย เพราะการศึกษามันขัดเกลาเรา ผมว่าถ้าเราไม่ได้เรียน เราก็คงจะเป็นคนที่แก้ปัญหาหรือดำเนินชีวิตแบบใช้สัญชาตญาณและความรุนแรงก็ได้”
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ที่คนไม่ควรพลาด?
แหลม – “ที่เห็นชัดเลย มีนักแสดง หลากหลายและทุกคนมีรสชาติเป็นของ ตัวเอง รู้สึกได้เลยว่าทุกคนใส่เต็มที่ เพราะทุกคนอยากจะได้เดอะเบสต์ของตัวเองอยู่ ในซีน”
