เอเอฟพีรายงานวันที่ 4 ธ.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลขยายการโจมตีกองกำลังฮามาสและปิดล้อมทั่วพื้นที่ฉนวนกาซ่า ท่ามกลางความวิตกกังวลของนานาชาติที่เกรงว่าพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ผู้บริสุทธิ์จะได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ภายหลังข้อตกลงหย่าศึกชั่วคราวรวมเจ็ดวันสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นอกจากอิสราเอลจะนำกำลังรุกคืบกาซ่าแล้ว ฝ่ายฮามาสก็เปิดฉากยิงจรวดโจมตีอิสราเอลเช่นกัน อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอลระบุว่ามีจรวดจำนวนหนึ่งถูกยิงจากฉนวนกาซ่าเข้าสู่อิสราเอล แต่กองทัพสามารถสกัดกั้นและทำลายจรวดส่วนใหญ่ไว้ได้
รัฐบาลที่ดำเนินการภายใต้กองกำลังฮามาสระบุว่า กองทัพอิสราเอลยิงโจมตีบริเวณทางเข้าโรงพยาบาลคามาล อัดวาน ทางเหนือของกาซ่า เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 3 ธ.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก “นี่เป็นการละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง” กองกำลังฮามาสโพสต์ผ่านเทเลแกรม ด้านกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า “ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 316 ราย และผู้บาดเจ็บ 664 ราย ถูกนำตัวออกจากซากปรักหักพังและส่งโรงพยาบาล แต่อีกหลายคนยังคงติดอยู่ใต้เศษซาก”
ขณะที่โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่ากองกำลังฮามาสใช้ โรงพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่นๆ เพื่อจุดประสงค์ทางทหารซึ่งฮามาสยืนกรานปฏิเสธข้อครหา กองทัพอิสราเอล ยังแถลงด้วยว่าตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นหลังจากฮามาสโจมตี เมื่อ 7 ต.ค. อิสราเอลโจมตีทางอากาศตอบโต้ราว 10,000 ครั้ง และว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากองทัพสังหารนายไฮษัม โกจารี หนึ่งในผู้บัญชาการฮามาส ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมการโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. และสั่งการต่อสู้กับกองกำลังไอดีเอฟที่ค่ายผู้ลี้ภัยแชตติ ทางเหนือของฉนวนกาซ่า
