กกร.ตั้งเป้าจีดีพีไทยปี 2567 โตได้ 2.8-3.3% ภายใต้สมมติฐานดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจ กังวลค่าไฟขึ้นดันราคาสินค้าขยับ 5-10%
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. ประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 2567 มีแนวโน้มเติบโต 2.8-3.3% เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวคาดว่าจะมี นักท่องเที่ยว 33 ล้านคนเพิ่มขึ้น 5 ล้านคน จากปี 2566 ส่วนการส่งออกคาดว่าจะเติบโต 2-3% และเงินเฟ้อคาดโต 1.7-2.2%
“แต่ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะโตได้น้อยกว่า 3% ซึ่งถือว่าเติบโตได้ตามศักยภาพเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน เพราะต้องเผชิญทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งสหรัฐและยุโรปที่ชะลอตัวจากภาวะการเงินตึงตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตไม่ถึง 5% เนื่องจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ และความเปราะบางในประเทศ เช่น หนี้ครัวเรือน หนี้ของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงผลกระทบต่อการเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการเริ่มใช้มาตรการการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)”
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 2567 ที่ กกร.คาดว่าจะโตได้ 2.8-3.3% ภายใต้สมมติฐานรัฐดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเงินดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้าน บาท ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ได้ประมาณ 1-1.5%
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า รัฐควรตรึงค่าไฟเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 ในอัตรา 3.99 บาท/หน่วยไว้ก่อน เพราะยอมรับว่าค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17% ทำให้ราคาสินค้าภาพรวมปรับขึ้น 5-10% และกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน