วันที่ 9 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า สหรัฐอเมริกาในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซีใช้สิทธิ์ยับยั้งหรือวีโต้มติของยูเอ็นเอสซี ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีในการสู้รบที่รุนแรงระหว่างอิสราเอลและฮามาสใน กาซ่า ที่ถูกผลักดันโดยนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็น ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากอีกหลายชาติสมาชิกให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันที
นายโรเบิร์ต วู้ด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นระบุว่า มติดังกล่าวถูกตัดขาดจากความเป็นจริงและจะไม่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใดๆ พร้อมทั้งกล่าวโจมตีผู้โหวตสนับสนุนมติ โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่า เร่งรีบเกินควรและทำให้ไม่เปลี่ยนแปลงต่อเสียงเรียกร้องเพื่อการหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข “มตินี้ยังคงมีเสียงเรียกร้องให้มีการหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข… ในทางปฏิบัติ มตินี้จะทำให้ฮามาสสามารถกระทำซ้ำรอยเดิมเหมือนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.” นายวู้ดกล่าว ซึ่งทำให้มีคนเสียชีวิตราว 1,200 คน ด้านอิสราเอลยกย่องการโหวตค้านมติ นายกิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็นกล่าวขอบคุณสหรัฐและประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการยืนเคียงข้างอิสราเอลอย่างหนักแน่น
นายกูแตร์เรสเรียกประชุมฉุกเฉินยูเอ็นเอสซี หลังจากการสู้รบหลายสัปดาห์ กระทรวงสาธารณสุขภายใต้ฮามาสระบุว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 17,487 รายในกาซ่า ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี ซึ่งโหวตหนุนมติระบุว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากที่ยูเอ็นเอสซีไม่สามารถที่จะต้องการการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมได้ ขณะที่สหราชอาณาจักร สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงเช่นเดียวกันกับสหรัฐงดออกเสียง และสมาชิกอื่นอีก 13 ชาติโหวตสนับสนุนมติ
