หลังเกิดฝนตกในพื้นที่อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เขตเทศบาลเมืองตราดและตำบลใกล้เคียงนานกว่า 30 นาที ทันทีที่ฝนเริ่มลดลงเป็นกลุ่มละอองฝนและมีแสงแดดจากฝั่งอำเภอเกาะช้างสาดส่องเข้ามาปะทะกับกลุ่มละอองฝน ทำให้เกิดปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำขึ้นในพื้นที่ด้านทิศเหนือของจังหวัดตราดและเห็นชัดเจนในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะบริเวณสนามหลวงตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานเมืองตราด ซึ่งครู อาจารย์ จาก โรงเรียนตราษตระการคุณ นักเรียนที่เรียนวิชาดาราศาสตร์ และกลุ่มสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดตราดกว่า 40 คนกำลังร่วมกิจกรรม คุณครูและประชาชนหลายคนเห็นปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำต่างถ่ายภาพเป็นที่ระลึก รวมทั้ง นายสุรศักดิ์ ภูติภัทร นายกเทศบาลเมืองตราด ที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย
นางศรุตยา รุนสะแกวงษ์ อาจารย์สอนวิชาฟิสิกส์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ โรงเรียนตราษตระการคุณ ที่ปรึกษาชุมนุมดาราศาสตร์กล่าวถึงปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำว่าเกิดจากการที่แสงอาทิตย์ปะทะกลุ่มละอองฝนแล้วเกิดการหักเหขึ้นจนแสงแยกออกเป็น 7 สี แสงแต่ละสีมีความถี่แตกต่างกันจึงกระจายออกมาเป็นสีรวม 7 สี เหตุการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ทั่วไปและเกิดบ่อยในช่วงหลังฝนตก จะมีความเข้มมากน้อยขึ้นอยู่กับความแรงของแสงที่เกิดการปะทะกับกลุ่มละอองน้ำ นักเรียนสามารถเรียนรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและความรู้เรื่องแสงได้
“สำหรับกรณีที่ครู-อาจารย์และนักเรียนนำกล้องมาส่องปรากฏการณ์ดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้โลกมากที่สุดนั้น เพราะดาวพฤหัสบดีเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์พร้อมกับโลก มีวงโคจรอยู่ในระนาบเดียวกันกับโลกมีลักษณะ เส้นตรง ช่วงเวลาที่เกิดขึ้น 1 ปีมีเพียง ครั้งเดียว เราจะใช้กล้องส่องดูดาวพฤหัสบดีโดยจะเห็นพื้นผิวที่เป็นจุดศูนย์กลาง และเห็นดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของ ดาวพฤหัสบดี 4 ดวงด้วย การที่ดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้โลกมากที่สุดไม่มีอิทธิพลต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ของโลก อาจจะมีความเชื่อทางโหราศาสตร์ซึ่งเป็น ความเชื่อของแต่ละบุคคลมากกว่า” นางศรุตยากล่าว
จักรกฤษณ์ แววคล้ายหงษ์