กรมราชทัณฑ์ออกระเบียบ “คุมขังนอกเรือนจำ” ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงปี 2563 และ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 ก่อนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล

จุดประสงค์ของกฎกระทรวงและระเบียบ ก็เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ เป็นไปตามข้อเสนอกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ให้แยกประเภทผู้ต้องขัง

เป็นเรื่องดีที่ผู้ต้องขังเจ็บป่วย ชราภาพ หรือประพฤติดี ใกล้ปล่อยตัว จะได้ออกไปอยู่นอกเรือนจำ เป็นทิศทางที่ถูกแล้ว ออกระเบียบล่าช้าด้วยซ้ำ

แต่บังเอิญ คนชื่อทักษิณ ชินวัตร วิ่งมาใส่ระเบียบนี้พอดี ทั้งรัฐบาล รัฐมนตรียุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ก็เลยถูกตั้งแง่ว่าออกระเบียบเพื่อทักษิณ

อย่างไรก็ตาม แม้ระเบียบนี้ออกโดยชอบธรรม เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน มันก็บังเอิญอีกว่า เกิน 100 วันแล้ว ร.พ.ตำรวจยังรักษาทักษิณไม่หาย ลองจินตภาพว่าถ้ารักษา 7 วันส่งกลับเรือนจำ อีก 3 เดือนออกระเบียบ จะอธิบายง่ายกว่านี้

พูดอีกอย่าง สังคมมองว่าทักษิณอยู่บนช่องทางพิเศษ พอมีช่องทางเปิดกว้างให้ทุกคนได้กลับบ้านโดยเท่าเทียมกัน มันก็กลายเป็นสิทธิพิเศษให้ทักษิณทันที

นอกจากนี้ ยังมีคำถามว่า เหตุใดราชทัณฑ์จึงรีบออกระเบียบฉบับนี้ก่อนฉบับอื่นๆ ตามข้อเสนอ กสม. เช่น แยกที่คุมขังระหว่างผู้ต้องขังเด็ดขาด กับผู้ถูกฝากขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ถูกคุมขังแทนค่าปรับ

คำแนะนำเฉพาะหน้า ถ้ากรมราชทัณฑ์อนุมัติให้คุมขังทักษิณนอกเรือนจำ ก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ปล่อยผู้ต้องขังพร้อมกันสัก 2-3 พัน ไม่ใช่ทักษิณลำดับต้นๆ แล้วจะลดกระแสลงหน่อย

กระแสการเมืองเรื่องทักษิณบังเอิญกลับบ้าน วันโหวต เศรษฐาเป็นนายกฯ แล้วป่วยกะทันหันไปนอนโรงพยาบาลตำรวจ อันที่จริง กลุ่มคนเคยไล่ทักษิณก็เคลื่อนไหวมาตลอด แต่จุดไม่ติด ไม่มีพลัง ไม่มีขั้วอำนาจหนุนหลัง นักการเมืองที่เคยเป่านกหวีดก็เข้าไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนอีกด้าน คนเคลื่อนไหวประชาธิปไตยที่มีจุดร่วมกับ เพื่อไทยมา 17 ปี แม้แยกทางเมื่อตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ก็ยังมีความเห็นใจทักษิณ ว่าถูกกระทำอย่างอยุติธรรม จากรัฐประหาร ตุลาการภิวัตน์

ทักษิณไม่ควรติดคุกแม้แต่วันเดียว ไม่ควรถูกยึดทรัพย์ ควรลบล้างผลพวงรัฐประหาร แต่การที่เพื่อไทยข้ามขั้วไปรับใช้อำนาจ ก็อย่าหลอกเด็กว่าไม่เกี่ยวกัน

แม้เห็นใจทักษิณอยากกลับบ้าน เป็นเราก็คงยอมทำ ทุกอย่างเพื่อกลับบ้าน แต่ไม่สามารถยอมรับการที่เพื่อไทย ละทิ้งจุดยืน

คนส่วนนี้จึงอ้ำอึ้ง ลำบากใจ ไม่พอใจแต่ไม่อยากซ้ำเติมทักษิณ พร้อมกันนั้นก็หวังว่า เพื่อไทยจะทำตามที่พูดบ้าง เช่นอ้างว่าจะเข้าไปต่อรองเพิ่มเพดานประชาธิปไตยไม่ใช่ยอมจำนน ก็น่าจะช่วยคนติดคุกคนลี้ภัย ไม่ใช่ทักษิณคนเดียว

แต่พอก้าวไกลเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สส.เพื่อไทยก็ว่าทำเพื่อพวกพ้อง วิปรัฐบาลเสนอ “ญัตติด่วน” ตั้งกรรมาธิการ ถ่วงเวลา

ประเด็นทักษิณจึงเป็นชนวนคามือ แม้ไม่รุนแรงอย่างที่กลัวกันแต่แรก แต่ก็ร้อนขึ้นทุกวัน ทักษิณจะได้กลับบ้านก่อนปีใหม่ไหม จะได้โพสต์ภาพอุ้มหลานอย่างมีความสุขในวันคริสต์มาสไหม กลับไปแล้วจะทำอะไร อยู่เงียบๆ หรือจัดรายการ จะเป็นที่ปรึกษารัฐบาลหรือหน่วยงานไหน จะพูดเรื่องอะไรบ้าง ต่อให้ไม่พูดเรื่องการเมือง พูดเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ก็เป็นชนวน

บางคนบ่นว่า ทำไมก้าวไม่พ้นทักษิณเสียที ควรให้ทักษิณ มีโอกาสออกมาช่วยชาติบ้านเมือง

อันดับแรก เพราะคนเคยเป็นพันธมิตรนกหวีดที่เกลียดทักษิณก็ยังเกลียด “เลวชั่วโกง” แค่ตอนนี้เกลียดก้าวไกลมากกว่า เครือข่ายอนุรักษ์ที่เพื่อไทยสวามิภักดิ์ นักการเมืองนกหวีดที่ ร่วมรัฐบาล ไม่ยักมีใครยอมรับผิดว่า ปลุกเกลียดชังทักษิณ เพื่อยึดอำนาจ

สลิ่มก็ยังเป็นสลิ่ม ด่าทักษิณได้สิทธิพิเศษ แต่ไม่ยัก เรียกร้องให้พรรคที่ตัวเองเลือกอย่างรวมไทยสร้างชาติกดดันรัฐบาล

อันดับถัดมา คนที่เคยเคลื่อนไหวต้านรัฐประหารต้านอำมาตย์มากับเพื่อไทย รวมทั้งม็อบคนรุ่นใหม่ 63-65 เข้าใจดีว่าทักษิณ-เพื่อไทยถูกกระทำ เข้าใจเห็นใจ แม้อาจไม่ผูกพัน และอันที่จริงก็ก้าวพ้นไปแล้ว คือไม่ได้เห็นทักษิณเป็นเทพ เป็นมาร ไม่ได้ยกย่องเชิดชูไม่ได้เกลียดชัง

แต่ที่ติดใจคือเพื่อไทยข้ามขั้วกลับคำ ละทิ้งจุดยืนอุดมการณ์ที่เคยกล่าวอ้างไว้ข้างหลัง แล้วเรียกร้องอย่างมักง่ายว่าให้ ก้าวข้าม Move On ให้ยอมรับการนำ

อันดับสาม สำหรับคนวงกว้าง ที่ไม่ใช่คอการเมืองฝั่งไหน อาจมีทั้งเห็นใจทักษิณ ชอบไม่ชอบบางอย่าง แต่ค่านิยมสังคมปัจจุบันยึดมั่นความเท่าเทียม เกลียดอภิสิทธิ์ชน เขาอาจ ไม่ตระหนักว่าทักษิณถูกกระทำ แต่เมื่อยอมกลับมารับโทษ ทำไมได้สิทธิต่างจากคนอื่น นี่หาคำอธิบายได้ยาก

ปฏิกิริยาเรื่องทักษิณวันนี้ดูเหมือนยังไม่ปะทุ แต่จะเร่งขึ้นตามเวลา ผกผันกับความพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจรัฐบาล

มองข้ามช็อต ทักษิณกลับบ้านแล้วเงียบไหม ถ้าเงียบคนที่ยังเห็นใจมีมากกว่า แต่ถ้าพี่โทนี่มีบทบาทแข็งขัน หนุนพรรค หนุนรัฐบาล ก็สุมไฟ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน