ททท.เชื่อมสายการบินเซาเดีย สายการบินแห่งชาติของ ซาอุดีฯ ผุดแคมเปญระดับโลก ตั้งเป้าดึงชาวซาอุดีอาระเบียเที่ยวไทยปี 67 รวม 3 แสนคน ปั้นรายได้ 27,675 ล้านบาท
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า นอกจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวในระบบออนไลน์ (OTA) แล้ว สายการบินก็คืออีก 1 ห้องหัวใจที่มีความสำคัญมาก ในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ททท.จึงไปพบปะและหารือร่วมกับผู้บริหารสายการบินเซาเดีย (Saudia Airlines) ได้แก่ นาย Wail Basaffar ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายขาย KSA และนาย Abdulrahman Alabdulwahab ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายภาคกลาง ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายประเทศไทย รวมถึงการขยายความร่วมมือทำแคมเปญระดับโลก (Global Campaign) กับสายการบินเซาเดีย
ขณะเดียวกันได้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวร่วมกันทั้งในมิติ ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (B2B) และผู้ประกอบการกับ ผู้บริโภค (B2C) ได้แก่ 1.เพิ่มเส้นทางบินไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ของประเทศไทย ได้แก่ ริยาด-ภูเก็ต 2.การประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านสื่อช่องทางต่างๆ อาทิ วิดีโอบนเครื่องบิน เพื่อเจาะกลุ่มต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือจัดทำ โปรโมชั่นทางการตลาด Two Kingdoms One Happiness (สองอาณาจักร หนึ่งความสุข) เชื่อมทะเล Dead Sea กับทะเลภูเก็ต เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และเตรียมเปิด ททท.สำนักงานริยาด
พร้อมเชิญชวนเข้าร่วมงาน TTM+ ที่ประเทศไทย ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวซาอุฯ ให้เดินทางไปประเทศไทยเพิ่มขึ้น ตลอดจนแนะนำบัตรไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาด้วย
“ในปี 2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า 300,000 คน สร้างรายได้ 27,675 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางปี 2566 มีวันพักเฉลี่ย 14.55 วัน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 92,251 ต่อคนต่อทริป นับว่ามีการใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่านักท่องเที่ยวจากอเมริกาและยุโรป”
ทั้งนี้ สายการบินเซาเดียเป็นสายการบินแห่งชาติ หรือชื่อเดิมใช้ชื่อว่าซาอุดี อาระเบียน แอร์ไลน์ เป็นสายการบินขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ในมิติของการสร้างรายได้ของภูมิภาคตะวันออกกลาง ตามหลังเพียงสายการบินเอมิเรตส์ และกาตาร์ แอร์เวย์ โดยที่ผ่านมา ททท.ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) ในการส่งเสริมตลาดตะวันออกกลางร่วมกับสายการบินเซาเดีย ณ สำนักงานใหญ่ เมืองเจดดาห์ โดยบันทึกข้อตกลง ดังกล่าวครอบคลุมถึงการขยายความร่วมมือระดับจัดทำแคมเปญระดับโลก เน้นสินค้าและบริการด้านตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ของประเทศไทย
