กลุ่มผู้บริหาร SABUY เข้ายื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร้องขอให้ช่วยตรวจสอบตลาดหลักทรัพย์ นำหุ้นไปซื้อขายโดยไม่ได้ยินยอม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม (ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข) นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบายเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY พร้อมตัวแทนผู้บริหารของบริษัท นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นร้องเรียนผ่าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบ Naked Short Selling ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลังพบมีการนำหุ้นของบริษัทไป ซื้อขายโดยที่บริษัทไม่ได้ยินยอม
ร้องรมต. – นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ซีอีโอบมจ.สบายเทคโนโลยี ร้องเรียน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ขอให้ตรวจสอบ Naked Short Selling ตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังมีการนำหุ้นของบริษัทไปซื้อขายโดยที่ไม่ได้ยินยอม ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท สบายเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัททำธุรกรรมการขายหุ้นให้กับกองทุน และ นักลงทุนและได้ฝากหุ้นจำนวนหนึ่ง ไว้กับผู้รับฝากหลักทรัพย์ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว ก็จะหักส่วนหนึ่งออกไปให้กับผู้ซื้อ ส่วนที่เหลือก็จะขอคืน แต่ช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา บริษัทกลับพบว่าหลังจากที่ทำการขายหุ้นไปแล้วบางส่วน จำนวนหุ้นที่ได้กลับคืนมาไม่เท่าเดิม ไม่ครบตามจำนวนที่ฝากไว้โดยขาดไปประมาณ 200 หุ้น จากที่ขอคืน 80 ล้านหุ้น
และในระหว่างที่มีการฝากหุ้นไว้นั้น ยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวของหุ้นที่ฝากไว้ หุ้นมีการเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆ โดยที่บริษัทไม่ได้รู้เห็นหรือยินยอม และหุ้นยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นอยู่ เมื่อสอบถามไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับการชี้แจงว่าไม่มี Naked Short Selling แต่ประเด็นที่บริษัทติดใจ คือกรรมสิทธิ์ของหุ้น มีการเคลื่อนไหวระหว่างทาง โดยที่บริษัทและผู้ถือหุ้นไม่ได้ยินยอม หรือรับรู้มาก่อน
จึงอยากให้กระทรวงยุติธรรม ช่วยสืบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ทั้งนี้มูลค่าความเสียหายทั้งหมด ที่หายไป 10,000-20,000 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหาย 25,000 ราย
พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า เบื้องต้นทางผู้บริหาร SABUY เข้าพบพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้รับคำร้องและได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำเรื่องไปตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฏ เนื่องจากเรื่องนี้สำคัญมากเพราะว่าเกี่ยวกับตลาดทุน หลังจากนี้จะมอบเรื่องให้ทางกองคดีการเงิน การธนาคาร และการฟอกเงินซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับตลาดทุนเพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อไป
